สัปดาห์พระเครื่อง / อ.ราม วัชรประดิษฐ์
อัตชีวประวัติ "พระครูวิริยะโสภิต"
หลวงปู่ศรี เกสโร ภูมิลำเนาเดิมท่านเป็นชาว อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เกิดเมื่อปีมะโรง พ.ศ. 2410 ในวัยเยาว์ท่านชอบศึกษาวิชาไสยเวทและเวทมนตร์คาถา เมื่ออายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดสุวรรณราชหงส์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยมี พระอาจารย์หิน วัดโบสถ์ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า “เกสโร”
หลังจากอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานจากพระอุปัชฌาย์จนเชี่ยวชาญ แล้วจึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระปรางค์ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสและได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูวิริยะโสภิต”
หลวงปู่ศรีได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมและวิชาไสยเวทจนเจนจบจาก หลวงพ่อไกร วัดใหญ่ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญวิชาไสยเวทที่แก่กล้าวิทยาคมเป็นอย่างสูง มีชื่อเสียงโด่งดังและมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
วัตถุมงคลและเหรียญรุ่นแรก
สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่ศรี ท่านได้สร้างไว้มากมายหลายชนิด อาทิ เชือกคาดเอว, ตะกรุดมหาอุด, สีผึ้งมหาเสน่ห์, น้ำมันมนต์, น้ำมนต์, แหวน และภาพถ่ายอัดกระจก แต่ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างมากในวงการพระเครื่อง คือ “เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี พ.ศ. 2476”
เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อแจกเป็นที่ระลึกสำหรับผู้ที่มาร่วมทำบุญสร้างศาลาวัดพระปรางค์ มีกรรมวิธีจัดสร้างอย่างพิถีพิถัน โดยนำแผ่นทองแดงชนวนมาลงอักขระเลขยันต์แล้วปลุกเสกเป็นปฐมฤกษ์ จากนั้นจึงนำไปหล่อหลอมรวมกับทองแดงที่จะปั๊มเป็นเหรียญ แล้วจึงนำทองแดงที่ได้ไปรีดเป็นแผ่นเพื่อนำไปปั๊มเป็นเหรียญ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วยังประกอบพิธีปลุกเสกเหรียญอีกครั้งหนึ่ง
หลวงปู่ศรีท่านถึงแก่มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ. 2482 สิริอายุ 72 ปี 52 พรรษา
พุทธลักษณะของเหรียญ
เหรียญรุ่นแรกปี 2476 เป็นเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ห่วงหูในตัว เนื้อทองแดง
ด้านหน้า: เป็นรูปหลวงปู่ศรีนั่งเต็มองค์อยู่ในกรอบ 2 ชั้น มีช่อชัยพฤกษ์ขนาบซ้าย–ขวา ในช่อจะมีรอยขีดปรากฏอยู่ เอกลักษณ์สำคัญคือการวางมือของหลวงปู่จะเป็นแบบ “สะดุ้งกลับ” (มือซ้ายพาดที่หัวเข่าซ้าย มือขวาวางตรงหน้าตัก) ด้านล่างมีตัวหนังสือ 3 แถว เขียนว่า “หลวงพ่อพระครูศรี” * ด้านหลัง: เขียนข้อความว่า “ที่ระลึกในงานสร้างศาลาวัดพระปรางค์ พ.ศ. ๒๔๗๖” ตรงกลางมีคาถาเป็นภาษาขอมอ่านได้ว่า “อิติมานิ”
พุทธคุณอันเข้มขลัง
ในด้านพุทธคุณนั้น เหรียญรุ่นนี้รวมถึงวัตถุมงคลของท่านมักถูกเรียกว่า “พระเดี่ยวดำ เดี่ยวแดง” เป็นพระเครื่องเก่าแก่ที่ทรงพุทธาคมเข้มขลัง โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรีเป็นที่ปรากฏชัด จนได้รับการยอมรับและเป็นที่หวงแหนของชาวจังหวัดสิงห์บุรีเป็นอย่างมากครับผม