เกษตร

กรมชลฯ เดินหน้าสร้างอ่างเก็บน้ำแม่คำ–แม่สแลบ เสริมความมั่นคงน้ำเชียงราย รับมือแล้ง–น้ำท่วม

แชร์ข่าว

"รองอธิบดีฯวรพจน์" ร่วมคณะ "รองนายกฯ ธรรมนัส" ลงพื้นที่เชียงราย ขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำและแม่สแลบ เพิ่มน้ำต้นทุนอุปโภคบริโภคและการเกษตร บรรเทาภัยแล้ง ลดความเสี่ยงอุทกภัย ครอบคลุมพื้นที่ชลประทานรวมกว่า 1.3 แสนไร่ วางแผนก่อสร้างช่วงปี 2571–2574 ยกระดับความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน

วันที่ 19 ธ.ค.68 นายวรพจน์ เพชรนรชาติ รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายนพดล น้อยไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 2 นายชาคริต ไทยประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 2 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและเร่งขับเคลื่อนงานพัฒนาแหล่งน้ำ เพิ่มความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ โรงเรียนเชียงแสนวิทยา ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้นำเสนอ VTR เกี่ยวกับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำ และโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สแลบ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภคบริโภค และการเกษตร รวมทั้งบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ลดความเสี่ยงจากอุทกภัย และเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้แก่ประชาชน

สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 13 บ้านแม่คำใหม่ ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และการเกษตร รวมถึงลดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ มีความจุอ่างฯ 51.65 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์ ประมาณ 79,000 ไร่ สามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูฝน 67,000 ไร่ และฤดูแล้ง 48,900 ไร่

ส่วนโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สแลบ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับอุปโภคบริโภค และการเกษตร รวมถึงช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและลดความเสี่ยงจากอุทกภัย มีความจุอ่างฯ 20.41 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์ 57,000 ไร่ สามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูฝน 45,500 ไร่ และฤดูแล้ง 33,200 ไร่

ปัจจุบันทั้ง 2 แห่ง อยู่ในแผนดำเนินงานก่อสร้างระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2571–2574) หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำที่สำคัญ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและความมั่นคงด้านน้ำของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต