เกษตร

น้ำท่วมใต้กระทบสวนยางกว่า 1 ล้านไร่ อัดงบช่วยถุงยังชีพแล้ว 4.2 ล้าน จ่อฟื้นฟูหลังน้ำลด

แชร์ข่าว

กยท. เผยเหตุน้ำท่วมภาคใต้ส่งผลให้มีพื้นที่สวนยางเสียหายกว่า 1 ล้านไร่ เดินหน้าให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน หนุนงบจัดถุงยังชีพไปแล้วกว่า 4.2 ล้านบาท เปิดโรงครัวสนาม-พื้นที่พักพิงชั่วคราว พร้อมเตรียมมาตรการเยียวยาสวนยางเสียหาย หวังให้ชาวสวนยางกลับมายืนหยัดได้โดยเร็วที่สุด

วันที่ 26 พ.ย.68 ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝกตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในหลายจังหวัด สร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตรและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง และมองว่าเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที ในส่วนของ กยท. ได้คาดการณ์ความเสียหายเบื้องต้น พบว่า มีสวนยางที่ได้รับผลกระทบ 9 จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.ตรัง จ.สงขลา จ.สตูล จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส โดยมีเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ได้รับผลกระทบประมาณ 165,000 ราย พื้นที่สวนยางได้รับผลกระทบรวมประมาณ 1,058,000 ไร่ ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตยาง รวมกว่า 2,541,389 กก.แห้ง (ข้อมูลจากฝ่ายพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร อัปเดต ณ วันที่ 25 พ.ย. 68) ประมาณมูลค่าความเสียหายของผลผลิตยางรวมกว่า 147 ล้านบาท (อ้างอิงจากราคาปิดตลาดยางแผ่นดิบของ
ตลาดกลางยางพารา กยท. ณ วันที่ 25 พ.ย. 68)

ดร.เพิก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น กยท. ได้จัดสรรเงินงบประมาณการจัดสวัสดิการสนับสนุนปัจจัยยังชีพ ตามมาตรา 49(5) เพื่อจัดหาปัจจัยถุงยังชีพไปแล้วรวมกว่า 4,275,000 บาท โดยพนักงาน กยท. ในพื้นที่ร่วมกันบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค สิ่งของที่จำเป็น อาหาร และน้ำดื่มสะอาด พร้อมตั้งโรงครัวเพื่อทำอาหารแจกจ่ายชาวสวนยางและประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และได้จัดพื้นที่สำนักงานของ กยท. เป็นที่พักอาศัยและเป็นสถานที่จอดยานพาหนะชั่วคราวแก่ผู้ได้รับผลกระทบในบริเวณใกล้เคียง

ทั้งนี้ หลังน้ำลดกลับสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่ กยท. ในพื้นที่จะเร่งเข้าตรวจสอบสภาพสวนยางของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ซึ่งหากสวนยางประสบภัยจนเสียสภาพสวน หรือต้นยางได้รับความเสียหายเกิน 20 ต้น/แปลง ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด กยท. จะจัดสรรเงินจากกองทุนพัฒนายางพารา มาตรา 49(5) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง รายละไม่เกิน 3,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีเงินทุนให้กู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล ปรับปรุงที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ หรือเป็นทุนในการประกอบอาชีพอีกรายละไม่เกิน 50,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 3 ปี อีกด้วย ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. สามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือด้านสวัสดิการเกษตรกรชาวสวนยาง และขอคำแนะนำการฟื้นฟูสวนยางหลังน้ำลด รวมถึงการดูแลรักษาสวนยางได้ที่ กยท. ทุกจังหวัด/สาขา ใกล้บ้านท่าน

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ร่วมช่วยเหลือแบ่งปันน้ำใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย สามารถร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนนนท์ เลขที่บัญชี 058-0-37995-7 ชื่อบัญชี “กยท. เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ” ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2568