กระทรวงมหาดไทย ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ในการนำทีมประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดประชุม AMRDPE ครั้งที่ 14 ย้ำบทบาทผู้นำการพัฒนาชนบทในเวทีอาเซียน
ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อย กับความสำเร็จของประเทศไทย โดยกระทรวงมหาดไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัด การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดและขจัดความยากจน ครั้งที่ 14 (14th AMRDPE) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 9–12 ธันวาคม ณ กรุงเทพมหานคร โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน โดยมีรัฐมนตรีและผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลสำเร็จ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินการห้วงปีที่ผ่านมา และร่วมกำหนดทิศทางและเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจนในระดับภูมิภาค
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้น ภายใต้แนวคิดหลัก “การส่งเสริมการพัฒนาชนบทที่ครอบคลุม ผ่านนวัตกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการเสริมพลังชุมชน เพื่อการขจัดความยากจนอย่างยั่งยืนในอาเซียน” “Advancing Inclusive Rural Development through Innovation, Local Wisdom, and Community Empowerment for Sustainable Poverty Eradication in ASEAN” โดยมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนนโยบาย ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในชนบทอย่างรอบด้านและเท่าเทียม โดยที่ประชุมได้รับฟังถ้อยแถลงจากรัฐมนตรีประเทศสมาชิกอาเซียน และร่วมกันพิจารณารับรองถ้อยแถลงร่วมของที่ประชุม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของอาเซียนในการขับเคลื่อนการพัฒนาชนบทและการลดความยากจนในทุกมิติอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ในการประชุม 14th AMRDPE ซึ่งประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ประกอบด้วยกิจกรรม และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่สำคัญ ได้แก่
วันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวทีเสวนาความร่วมมือภาครัฐ เอกชน ประชาชน (14th ASEAN Public Private People Partnership Forum on Rural Development and Poverty Eradication: 14th PPPP Forum on RDPE) ภายใต้หัวข้อ “เสริมพลังอาเซียน “ปลอดความยากจน” : การพัฒนาชนบทอย่างทั่วถึงผ่านนวัตกรรม และความร่วมมือ” โดยมีผู้เข้าร่วมเวทีจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรมการปกครอง YEC และผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 11 ประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และข้อเสนอการขับเคลื่อนพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน การขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ 1 ของสหประชาชาติ (SDG: 1 No Poverty) ตัวอย่างการใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการขจัดความยากจน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มเปราะบาง ตลอดจนบทบาทของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Young Entrepreneurs) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน
โดยเวทีเสวนาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี สังคม การเงิน และเชิงสถาบัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท เพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือความเสี่ยง และขยายการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน โดยเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงนโยบายและกลไกทางการเงินที่เอื้อต่อการทดลอง ขยายผล และยกระดับโครงการนวัตกรรมในระดับชุมชน รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงตลาด การศึกษา และบริการใหม่ ๆ ในพื้นที่ชนบท เน้นย้ำการพัฒนาชนบทอย่างครอบคลุม โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายของกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้หญิง เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ ตลอดจนการลดอุปสรรคเชิงโครงสร้างและธรรมาภิบาลในการเข้าถึงทรัพยากรทางเศรษฐกิจ บริการสาธารณะ และระบบคุ้มครองทางสังคม พร้อมทั้งส่งเสริมรูปแบบการพัฒนาที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนและยึดโยงภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้การกำหนดนโยบายและการดำเนินโครงการสอดคล้องกับบริบทพื้นที่อย่างแท้จริง ประชุมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบข้อมูลและนโยบายเชิงประจักษ์ โดยสนับสนุนการจัดทำข้อมูลแยกตามกลุ่ม (disaggregated data) ระบบติดตามและประเมินผล เพื่อสะท้อนความก้าวหน้าในการขจัดความยากจนและผลลัพธ์ของนวัตกรรม ตลอดจนการบูรณาการงานวิจัย ข้อมูลจากชุมชน และแนวปฏิบัติที่ดีในระดับภูมิภาค
ท้ายที่สุด ที่ประชุมเห็นพ้องให้เสริมสร้างความร่วมมือแบบพหุภาคีในทุกระดับ และยกระดับความเป็นหุ้นส่วนภาครัฐ–เอกชน–ประชาชน (PPPP) ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจนของอาเซียน โดยสนับสนุนบทบาทภาคเอกชนและเยาวชนในการพัฒนารูปแบบธุรกิจและนวัตกรรมที่เชื่อมโยงเมือง–ชนบท ควบคู่การขยายบทบาทกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการทดลอง ขยายผล และยกระดับนวัตกรรมจากชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ผลลัพธ์จากเวทีเสนาดังกล่าว ได้นำเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 22 (22nd Senior Officials Meeting on Rural Development and Poverty Eradication: 22nd SOMRDPE)
วันที่ 10 ธันวาคม 2568 การประชุมเครือช่ายหมู่บ้านอาเซียน ครั้งที่ 3 (3rd ASEAN Village Network : 3rd AVN) เป็นการประชุมเสวนาที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือเครือข่ายชุมชนหมู่บ้านอาเซียนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งพูดคุยในประเด็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งส่งเสริมบทบาทของนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการท่องเที่ยวเชิงชุมชนให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของชนบทอย่างทั่วถึงและลดความยากจนอย่างยั่งยืน ในส่วนของประเทศไทยได้เชิญผู้นำชุมชนต้นแบบเครือข่ายหมู่บ้านอาเซียน ประกอบด้วย 1. บ้านท่ามะขาม อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 2.บ้านขอนขว้าง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และ 3. บ้านหนองทราย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และจัดนิทรรศการแสดงแนวทางการพัฒนาที่เป็นเลิศ (Best Practices) ตลอดจนจำหน่ายสินค้า OTOP ภายในงาน
วันที่ 10-11 ธันวาคม 2568 การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 22 (22nd Senior Officials Meeting on Rural Development and Poverty Eradication: 22nd SOMRDPE) เป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของอาเซียน (เทียบเท่าระดับปลัดกระทรวง) โดยประเทศไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ นายสันติธรยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ในฐานะ SOMRDPE Chair และมีสำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN National Secretariat) เป็นฝ่ายเลขานุการ ทั้งนี้ เพื่อทบทวนความก้าวหน้า กำหนดทิศทาง และเตรียมผลลัพธ์เชิงนโยบาย ด้านการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจนของอาเซียน ภายใต้แนวคิด การพัฒนาชนบทอย่างครอบคลุมผ่านนวัตกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการเสริมพลังชุมชน โดยวาระที่สำคัญคือการติดตามและสรุปผลการดำเนินงาน แผนปฏิบัติการกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจน พ.ศ. 2564–2568 (ASEAN Framework Action Plan on RDPE 2021–2025 : FAP 2021 - 2025) พร้อมเตรียมการทบทวนระยะสุดท้าย และพิจารณาแนวทางและให้ข้อเสนอแนะต่อการจัดทำ แผนปฏิบัติการฯในระยะถัดไป (FAP 2026–2030)
รวมไปถึง การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน +3 (จีน เกาหลี และญี่ปุ่น) ครั้งที่ 18 (18th SOMRDPE +3) โดยมีผู้แทนจากประเทศพันธมิตรร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน โดยประเทศพันธมิตรแสดงความพร้อมในการสนับสนุนความร่วมมือ กับอาเซียนในสาขาที่มีศักยภาพ เช่น นวัตกรรมดิจิทัล การพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน การเสริมพลังชุมชน และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในส่วนของประเทศไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำโครงการ ASEAN+3 Regional Collaborative Development and Knowledge Exchange on Grassroots Empowerment for Poverty Reduction and Sustainable Development ซึ่งโครงการนี้มุ่งเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนาชุมชนฐานรากของประเทศอาเซียนและอาเซียน+3 ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีด้านการขจัดความยากจน โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้โมเดลความสำเร็จ เช่น OTOP และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (WEF) ของไทย ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศ ศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบ และร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทของแต่ละประเทศ
พร้อมกันนี้ ยังจัดให้มีพิธีมอบรางวัลผู้นำอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 7 (7th RDPE Leadership Awards) เพื่อยกย่ององค์กรหรือหน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นในประเทศสมาชิกอาเซียน แบ่งเป็น ประเภทองค์การนอกภาครัฐ (Non-Governmental Organizations: NGOs) หรือองค์กรภาคประชาสังคม (Civil Society Organizations: CSOs) และประเภทองค์กรธุรกิจเอกชน (Private Sector) รวม 19 หน่วยงาน จาก 11 ประเทศสมาชิกซึ่งคัดเลือกจากหน่วยงานในประเทศที่มีผลการขับเคลื่อนกิจกรรมที่มีความโดดเด่นในการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ชนบท
วันที่ 12 ธันวาคม 2568 การประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจน ครั้งที่ 14 (14th ASEAN Ministers Meeting on Rural Development and Poverty Eradication: 14th AMRDPE) โดยประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมในฐานะ AMRDPE Chair และมีสำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN National Secretariat) เป็นฝ่ายเลขานุการ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อีก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมการประชุม ในวาระเกี่ยวกับผลการดำเนินการในการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนั้นยังมีการแลกเปลี่ยนถ้อยแถลงระดับประเทศเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติที่ดีของแต่ละประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและรับรอง ซึ่งสะท้อนฉันทามติร่วมกันของประเทศสมาชิกในการยกระดับความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจนอย่างยั่งยืน และหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียนได้ร่วมกันรับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุม แถลงการณ์ร่วมของการประชุม (Joint Statement) 14th AMRDPE ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ของอาเซียนในการขับเคลื่อนการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจนอย่างยั่งยืน โดยที่ประชุมได้ยืนยันถึง
• ความสำคัญของ การพัฒนาชนบทอย่างครอบคลุม ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของชุมชน
• การส่งเสริม ความร่วมมือแบบพหุภาคีและหุ้นส่วนภาครัฐ–เอกชน–ประชาชน (PPPP) เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี การลงทุน และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
• การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน กลุ่มเปราะบาง เยาวชน และสตรี ให้มีบทบาทเป็นผู้ขับเคลื่อนการพัฒนา
• การยืนยันเจตนารมณ์ร่วมในการดำเนินการตาม แผนปฏิบัติการอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจน และกรอบยุทธศาสตร์ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เพื่อให้การพัฒนาเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและเท่าเทียม
ทั้งนี้ ในวันสุดท้ายของการประชุม (12 ธันวาคม 2568) กระทรวงมหาดไทย ยังจัดให้มีการศึกษาดูงาน ณ สถาบันส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วย และในที่ประชุม 14th AMRDPE ยังเห็นชอบให้ ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม AMRDPE ครั้งที่ 15 ในปี พ.ศ. 2570 พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นในการสานต่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในชนบทและขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป







