เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.68 เพจเฟสบุ๊ก "สภาองค์กรของผู้บริโภค" โพสต์ข้อความระบุว่า สำหรับหลายคน การเข้าร้านทำผมคือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ที่หวังว่าจะเดินออกมาพร้อมความมั่นใจ แต่สำหรับ “คุณบี” ทุกอย่างกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวดที่ยาวนาน ทั้งต่อเส้นผม หนังศีรษะ และสภาพจิตใจที่ยากจะเยียวยา
เรื่องราวเริ่มต้นจากโพสต์โฆษณาในโซเชียล เมื่อร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งประกาศ “ยืดผม โปรโมชัน 888 บาท” เธอเห็นราคาและคำโฆษณา จึงสอบถามเพิ่มเติมว่าทางร้านสามารถดัดผมให้พองนุ่มมีน้ำหนักได้หรือไม่ และทางร้านยืนยันว่า “ทำได้หมด” พร้อมแสดงผลงาน และย้ำว่ามีประสบการณ์ทำผมกว่า 9–10 ปี คำพูดเหล่านี้เพียงพอให้เธอเกิดความมั่นใจ และตัดสินใจเข้ารับบริการในวันถัดไป
แต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อการดัดผมครั้งแรกไม่เป็นลอนตามต้องการ และขอแก้ทันที สรุปผลลัพธ์ที่ได้คือผมยังคงไม่เป็นลอน ช่างจึงนัดให้มาแก้ซ้ำอีกครั้งภายใน 3 วัน
แม้ว่า การแก้ครั้งที่ 3 จะทำให้ผมเธอเซ็ตตัวเป็นลอนได้ แต่หลังจากนั้น 2 วัน พบว่าผมของเธอเริ่มแสดงสัญญาณความเสียหายหนัก ทั้งแห้งกรอบ หยิกฟู ไม่เป็นทรง บางส่วนถึงขั้นเปื่อยและหลุดออก
เธอรีบติดต่อร้าน แต่กลับได้คำรับผิดชอบเพียง “ทางร้านจะคืนเงินให้ 600 บาท” และคำสัญญาว่าจะปรึกษาอาจารย์เพื่อหาทางแก้ไขให้ แต่หลังจากนั้นร้านก็เงียบหาย ไม่ติดต่อกลับ จนในเวลาต่อมาเมื่อเธอส่งรูปผมที่เสียให้ ร้านถึงขั้น บล็อกแชท ไม่รับสาย และไม่ติดต่อกลับ
จากความสิ้นหวัง… สู่การลุกขึ้นปกป้องสิทธิ ชวนดูต่อว่าคุณบีทำอย่างไร ที่ทำให้เธอได้รับการชดเชยเยียวยา https://www.tcc.or.th/documents/beauty-salon/
#เรื่องเล่าผู้บริโภค #ร้านเสริมสวย #ทำผม #ไม่ตรงปก #สิทธิผู้บริโภค #สภาผู้บริโภค #เพื่อนผู้บริโภค #สภาผู้บริโภคที่ไม่ใช่สคบ #สภาองค์กรผู้บริโภค #ร้องเรียนผู้บริโภค #ผมพังจากร้านทำผม #โปร888 #ร้านทำผม #สิทธิผู้บริโภค #ข่าวสังคม #ดัดผม #ผมเสีย #ไม่เฟคนิวส์