วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 - กรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการรับมือและช่วยเหลือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงแผนการบริหารจัดการน้ำของ กทม. ว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) จะมีการประชุมใหญ่ของกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือและถอดบทเรียนเกี่ยวกับการระบายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถานการณ์ที่หาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญที่อาจเกิดขึ้นกับกรุงเทพฯ ได้ นายชัชชาติเน้นย้ำว่า การประชุมนี้ต้องเร่งดำเนินการในขณะที่เหตุการณ์ยังคงสดใหม่และอยู่ในความทรงจำ เพื่อตรวจสอบความพร้อมของ กทม. ว่าจะต้องมีการปรับปรุงหรือเตรียมความพร้อมในจุดใดบ้าง เนื่องจากหากสถานการณ์ฝนตกหนักขนาดนั้นเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ อาจจะต้องรับมือความเสียหายไม่น้อยกว่าหาดใหญ่
นายชัชชาติกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมระยะยาว กรุงเทพมหานครกำลังเตรียมการจัดทำงบประมาณสำหรับปี 2570 เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสำหรับใช้ในสมัยผู้ว่าฯ คนถัดไปด้วย นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตามความก้าวหน้าของการจัดการระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ เช่น การตรวจสอบสถานีสูบน้ำที่สำโรง ซึ่งพบว่าสามารถทำงานได้ดี แต่บางครั้งน้ำก็ไปไม่ถึงสถานีสูบ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ นายชัชชาติชี้แจงว่า กทม. ได้ตั้งศูนย์รับบริจาคร่วมกับหน่วยงานสภากาชาดไทยแล้ว เนื่องจาก กทม. เองอาจไม่สามารถแบกรับภาระการขนส่งสิ่งของทั้งหมดไปได้ โดยหน่วยงานสภากาชาดไทยจะทำหน้าที่เป็นผู้ส่งต่อความช่วยเหลือดังกล่าว จุดรับบริจาคจะอยู่ที่ กทม. ดินแดง และลานคนเมืองเสาชิงช้า รวมถึงที่สำนักงานเขต 50 เขต รวมทั้งสิ้น 52 จุด สิ่งของที่ต้องการรับบริจาค ได้แก่ ที่นอน หมอน มุ้ง ไฟฉาย และหากเป็นเสื้อผ้า ขอให้เป็นเสื้อผ้าใหม่เพื่อความสะดวกในการจัดการ
นายชัชชาติให้เหตุผลว่า การรับบริจาคสิ่งของโดยตรงนั้นรวดเร็วกว่าการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เนื่องจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอาจต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งในยามฉุกเฉินนั้น หากนำเงินไปใช้จ่ายอาจจะไม่ทันการณ์ พร้อมยืนยันว่าถึงแม้รัฐบาลจะมีงบประมาณอยู่แล้ว แต่การจัดซื้อก็ยังต้องใช้เวลา นายชัชชาติกล่าวว่า กทม. พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่พื้นที่ภาคใต้หากมีการร้องขอเพิ่มเติม พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงาน เพราะสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้จะไม่สามารถลงพื้นที่ภาคใต้ได้ แต่ก็ต้องมุ่งเน้นการรักษาพื้นที่ในกรุงเทพฯ ให้ดีก่อนเป็นหลัก
นอกจากนี้ กทม. ยังได้มีการเตรียมทีมฟื้นฟูตามคำสั่งของรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือด้วย และในช่วงแรกของการประสานงานความช่วยเหลือ ได้มีการใช้แพลตฟอร์มทราฟฟี่ ฟองดูว์ในการรวบรวมคัดกรองข้อมูลแล้วส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม กทม. ต้องตั้งมั่นในพื้นที่เป็นหลัก แต่หากส่วนกลางมีความต้องการเรื่องใดก็สามารถแจ้งเข้ามาได้ทันที







