การพบปลาต่างถิ่น หรือ เอเลี่ยนสปีชีส์ ระบาดในแหล่งน้ำหลายพื้นที่ ทั้งปลาหมอบัตเตอร์ ปลาหมอมายัน ปลาซักเกอร์ ปลาอโรวาน่า นับเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบระบบนิเวศ ที่กรมประมงต้องเร่งวางมาตรการป้องกันตั้งแต่ต้นทาง
ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล ประธานเครือข่ายเสียงจากป่า เปิดเผยว่า กระแสตอนนี้ที่ดังที่สุดที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมคือเรื่อง เอเลี่ยน เอเลี่ยนคืออะไร มันเป็นอย่างไร มันจะกินเราไหม…? ดังนั้น คำว่าเอเลี่ยน ในเชิงวิทยาศาสตร์ ในเชิงความรู้มันคือสัตว์ต่างถิ่นหรือพืชต่างถิ่น อะไรที่ไม่ใช่ของไทยแต่ดั่งเดิมเรียกเอเลี่ยนหมด ทำให้เรารู้ว่าเอเลี่ยนมันคืออะไร แล้วมันเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างไร ตามข้อมูลที่ตรวจสอบ ก็พบว่ามีมาตั้งแต่โบราณ จนมาถึงทุกวันนี้
เอเลี่ยนมีเป็นพันสายพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น สุนัขชิวาว่า ชิสุ หรือเลี้ยงปลาหางนกยูง ก็เป็น เอเลี่ยนทั้งนั้น เมื่อเห็นว่าเอเลี่ยนมีจำนวนมากในเมืองไทย กลุ่มเครือข่ายเสียงจากป่าก็เลยจับเรื่องนี้เป็นเวทีเสวนาขึ้น และเห็นว่าเรื่อง ปลาหมอคางดำกำลังได้รับความสนใจต่อคนไทย จึงได้สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกันสัตว์น้ำจึงพบว่าเอเลี่ยนหลายชนิดที่เป็นสัตว์น้ำในไทยมีจำนวนเยอะมาก มีทั้งการนำเข้ามาแบบถูกกฎหมาย แต่การลักลอบนำเข้ามาก็มีเยอะมากเช่นกัน ก็ต้องเห็นใจกรมประมง ที่มีหน้าที่กำกับควบคุม แต่จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดการลักลอบ แต่ที่มันเยอะๆก็คือการลักลอบเข้ามาเป็นหลัก แต่จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดการลักลอบ ไม่ง่าย เหมือนยาเสพติดผิดกฎหมาย มีหน่วยงานควบคุมมากมาย แต่ก็ปราบไม่หมด
ที่สำคัญ การที่หยิบเรื่องปลาหมอคางดำขึ้นมาพูดคุย เพราะเป็นข่าวดังแพร่หลายว่า ปลาหมอคางดำ มันทำลายล้างคุกคามมันทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายสัตว์น้ำอื่น มันจริงหรือ…? วันนี้บ้านเรามีข้อมูลข่าวสารที่ถูกปล่อยออกมาทางสื่อโซเชียลมากมาย แต่สิ่งสำคัญคือเราไปหลงเชื่อตั้งแต่ต้นว่ามันอันตราย จึงได้หารือกันว่าเอเลี่ยนแบบไหนที่เป็นประโยชน์แบบไหนเป็นโทษ โดยเฉพาะสัตว์น้ำ ที่ไม่สามารถค้นหาที่ไปที่มาได้ เครือข่ายเสียงจากป่าได้ออกสำรวจแล้วพบ 50% ประมาณว่าหน่วยงานรัฐมีหลักฐาน และอีก 50% ไม่รู้ว่ามาจากไหน จึงอนุมานทางหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ สรุปก็คือมีการลักลอบนำเข้ามาแค่นั้นเอง และลักลอบเข้ามาแล้ว มันจะมีอันตรายอีกไหม เราก็ออกตรวจสอบอีกโดยไปสำรวจในตลาดสดก็พบปลาอยู่จำนวนมากรวมถึงปลาชะโดด้วย ซึ่งเป็นสัตว์ที่ดุร้าย แต่ไม่พบผลกระทบว่ามีปลาลดน้อยลงไป ดังนั้นเราจึงต้องหาหลักฐานเชิงประจักษทางวิทยาศาสตร์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของงานเสวนาปลาหมอคางดำนี้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องการลักลอบปลาต่างถิ่น ถูกนำเข้ามาในประเทศ มีทั้งประโยชน์และโทษ โดยภาพรวมส่วนใหญ่แล้วกรมประมงเองแม้จะมีกฎเกณฑ์การนำเข้าส่งออกที่ชัดเจน แต่ปัญหาเรื่องของบุคลากรและงบประมาณก็จะไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ที่สำคัญยังพบว่าการนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นก็มีความยุ่งยาก และเกิดความสูญเสียจนทำให้เกิดการลักลอบการนำเข้า ส่วนที่ขออนุญาตอย่างถูกต้องก็จะนำมาวิจัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของไทย ส่วนวิธีการแก้ปัญหาในเรื่องสัตว์ต่างถิ่นมีกรรมการและหน่วยงานที่ดูแล แล้วก็ต้องเพิ่มความเข้มงวดและต้องมีเอกสาร ต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของการนำเข้าและการส่งออก ซึ่งก็จะทำให้ปัญหาการลักลอบน้อยลง
ทั้งนี้ ปัจจุบันพบว่าปัญหาเรื่องของปลาต่างถิ่นก็มีเยอะมากในประเทศไทย เช่น ปลาอโรวาน่า ปลาทองยังมีสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย เพราะการเลี้ยงปลาบ้านเรามีการพัฒนาซึ่งการนำสัตว์ต่างถิ่นเข้ามา อาจจะไม่ได้ถูกตั้งเป้าว่าจะต้องเกิดการทำลายระบบนิเวศ ทั้งนี้ ในเรื่องของปลาหมอคางดำ ได้มีการศึกษาเอกสารทั้งในและต่างประเทศ และเราต้องการชี้ให้เห็นว่าทุ เหรียญมี 2 ด้าน มีทั้งประโยชน์และโทษ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก FAO ที่มักถูกกล่าวอ้างผิดเกี่ยวกับปลาหมอคางดำ ว่ามัน”กินปลาอื่น” หรือ “ทำลายระบบนิเวศ” ทั้งที่ในทางวิทยาศาสตร์ - ข้อมูลปัจจุบัน ไม่ระบุว่าเป็นปลานักล่า ปลาหมอคางดำ วงศ์ Cichlidae ถิ่นกำเนิด แอฟริกาตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่น้ำกร่อย เช่น ทะเลสาบ Chad ปากแม่น้ำ Niger และอ่าวกินี
ลักษณะการกิน เป็นสัตว์กินพืชและสัตว์ขนาดเล็ก ที่โน้มไปทางกินเศษอินทรียวัตถุ สาหร่าย แพลงก์ตอน และจุลลินทรีย์เป็นหลัก หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากงานวิจัย (1)FAO SpeciesFact Sheet (Food and Agriculture Organization,UN ) ระบุชัดว่า S.mclanotheron กิน Phytoplankton, detritus, และ organic mattcr และ ไม่มีข้อมูลว่าเป็นปลากินเนื้อ ขณะเดียวกัน วิเคราะห์อาหารจากกระเพาะปลาหมอคางดำในบริเวณน้ำกร่อย Cotc d’lvoire พบว่า 70-80 % เป็นอินทรียวัตถุ 15-20% เป็นสาหร่าย 5% หรือน้อยกว่านั้นเป็นแพลงก์ตอนสัตว์ และไม่มีหลักฐานกินปลาอื่น
ส่วนบทวิเคราะห์เชิงนิเวศ ปลาหมอคางดำ มีพฤติกรรมการหาอาหาร กินเศษอินทรีย์และสาหร่ายพื้นน้ำและผิวน้ำ โครงสร้างฟันและปาก ฟันเรียบและแบบ เหมาะสำหรับ “กรอง” ไม่ใช่ “กัด” ลักษณะทางเดินอาหาร ยาวมากกว่า 2.5เท่าของลำตัว เป็นลักษณะของปลากินพืช และระบบนิเวศที่อยู่ได้ดี คือ พื้นที่น้ำเสีย น้ำกร่อย น้ำเค็ม บงชี้ว่ามีบทบาท “ย่อยสลายอินทรีย์” มากกว่าการล่า
#ปลาหมอคางดำ #ดร.ชัยภัฏจันทร์วิไล #สิ่งแวดล้อม








