สธ.จัดงานเบาหวานโลก สนับสนุน Digital Health ช่วยวัยทำงานห่างไกลโรคเบาหวาน เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมแนะ “กินลด นอนเพิ่ม ไม่เติมหวาน อย่าเครียดนาน เบาหวานไม่มี”
กรมการแพทย์ จัดงานวันเบาหวานโลก 14 พฤศจิกายน “World Diabetes Day 2025 : Empower for Change” ในธีม “เบาหวาน เบาใจ วัยทำงาน” สนับสนุน Digital Health ให้วัยทำงานสามารถเข้าถึงการรักษาโรคเบาหวานได้อย่างถูกต้องและมีคุณภาพ พร้อมชี้ “กินลด นอนเพิ่ม ไม่เติมหวาน อย่าเครียดนาน เบาหวานไม่มี”
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และที่ปรึกษากรมการแพทย์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยมุ่งการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ส่งเสริมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมทั้งส่งเสริมการใช้ Digital Health เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่ง “เบาหวาน" เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย ทั่วโลกมีผู้คนกว่า 589 ล้านคน ที่กำลังเผชิญกับโรคเบาหวาน และคาดการณ์ว่าในปี 2050 จำนวนผู้ใหญ่ที่ป่วยโรคเบาหวานจะเพิ่มขึ้นเป็น 852.5 ล้านคน สำหรับในประเทศไทย พบว่า ในระยะเวลา 5 ปี ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งล้านคน สะท้อนให้เห็นว่าโรคเบาหวานยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะวัยทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โดยพบว่าวัยทำงานเป็นวัยที่เข้าถึงการวินิจฉัยและการรักษาโรคเบาหวานน้อยกว่า และมีการควบคุมโรคแย่กว่าวัยสูงอายุ เป็นสิ่งที่น่ากังวลว่าจะอาจมีผลทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนเร็วขึ้นและอาจรุนแรงกว่าปกติ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการทำงานและเศรษฐกิจ เช่น การลาหยุดงานเนื่องจากอาการป่วย หรือประสิทธิภาพการทำงานลดลงขณะทำงาน รวมถึงภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานเป็นสาเหตุหลักของการทุพพลภาพ คุณภาพชีวิตลดลง และการสูญเสียประสิทธิภาพจากการทำงาน ถือเป็นภาระทางเศรษฐกิจที่สำคัญ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์จึงได้บูรณาการการทำงานกับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกรมอนามัย กรมควบคุมโรค สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ สมาคมผู้ให้ความรู้โรคเบาหวาน สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย และเดอะมอล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ร่วมกันจัดงานวันเบาหวานโลก ปี 2568 ซึ่งตรงกับ 14 พฤศจิกายน “World Diabetes Day 2025 : Empower for Change” ภายใต้ธีม “เบาหวาน เบาใจ วัยทำงาน”
นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วัยทำงานมักพบโรคเบาหวาน เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงสูง คือ 1. กิจวัตรประจำวัน (Lifestyle) มีความเครียดจากการทำงานสูง อดนอน และไม่มีเวลาออกกำลังกาย 2. อาหาร มีพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม เน้นการบริโภคอาหารจานด่วน รวมถึงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
และ 3. พฤติกรรมเสี่ยง คือ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ จึงขอแนะนำให้ “กินลด นอนเพิ่ม ไม่เติมหวาน อย่าเครียดนาน เบาหวานไม่มี” เพื่อหลีกเลี่ยงโรคเบาหวาน ภายในงานมีบูธนวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ AI กับการคัดกรองเบาหวานขึ้นตา โดยโรงพยาบาลราชวิถี เทคโนโลยี AI DentDetect โดยสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ เครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทางลมหายใจฝีมือคนไทย เทคโนโลยีแผ่นเสริมรองเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การประเมินการลงน้ำหนักที่เท้าด้วยเครื่องแสกนสามมิติ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ บูธให้ความรู้และคำแนะนำจากหน่วยงานในสังกัด กรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค สมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบาหวาน บูธการบริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นฟรี การเสวนาในเวทีกลางตลอดงานในหัวข้อ อาทิ “Success Stories from Diabetic Influencers” แรงบันดาลใจจากผู้ป่วยจริงที่เปลี่ยนชีวิตด้วยพลังใจ โดยนายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมาและนางสาวมาเลนา ลอรา วิลสัน และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย








