การศึกษา

Look Back, Act Forward เหลียวหลังแลหน้างานวันครู 2569

แชร์ข่าว

ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล เสนอบทความเรื่อง "Look Back, Act Forward เหลียวหลังแลหน้างานวันครู 2569" ข้อความว่า ในทุกสังคมที่ให้ความสำคัญกับอนาคตของชาติ “ครู” มักได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญผู้ทำงานเงียบแต่ทรงพลัง  เป็นผู้จุดประกายความฝัน ถ่ายทอดทักษะชีวิต และสร้างรากฐานสังคมผ่านการพัฒนาคนจากรุ่นสู่รุ่น วันครูนอกจากจะเป็นวันรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์แล้วยังเป็นเวทีที่ทำให้ทุกคนได้หยุดมองย้อนสะท้อนบทบาทของครูในบริบทโลกใหม่อีกด้วย

จากการประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์งานวันครู ครั้งที่ 70 ปี 2569 เมื่อวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุมไทยาจารย์ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ทางรองศาสตราจารย์ ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานคณะกรรมการฯ จึงให้แนวทางสำคัญคือ “การทำงานรูปแบบใหม่ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม” โดยถือเป็นปีสำคัญที่เราจะ “Look Back” เพื่อเรียนรู้จากการเดินทางที่ผ่านมา และ “Act Forward” เพื่อออกแบบอนาคตของงานวันครูให้มีพลังยิ่งขึ้น

หากมองไปยังหลายประเทศ เราจะเห็นว่าวันครูเป็นวัฒนธรรมร่วมระดับโลกที่ถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับยุคสมัย เช่น สหรัฐอเมริกาที่ใช้ “Teacher Appreciation Week” เป็นช่วงสื่อสารสาธารณะครั้งใหญ่ผ่านกิจกรรมในโรงเรียนและสื่อโซเชียล ญี่ปุ่นจัดวันวิชาชีพครูผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้พร้อมเปิดโรงเรียนให้ชุมชนเข้าเยี่ยม หรือเกาหลีใต้ซึ่งให้ความสำคัญกับการเชิดชูเกียรติครูผ่านงานเชิงพิธีการควบคู่คอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจในโลกออนไลน์ แม้บริบทจะแตกต่างกัน แต่ทุกประเทศล้วนเติมความทันสมัยลงไปในงานวันครู เพื่อให้ครูรู้สึก “ได้รับความรัก ได้รับการมองเห็น และได้รับคุณค่าอย่างเป็นรูปธรรม”

เมื่อหันกลับมามองประเทศไทย งานวันครูในปี 2568 ได้พัฒนารูปแบบให้เข้ากับโลกออนไลน์มากขึ้น โดยยังคงแก่นของพิธีการทางวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการสื่อสารสาธารณะในหลายช่องทาง ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เว็บไซต์วันครู และสื่อสังคมออนไลน์ที่ถูกนำมาใช้แพร่หลายมากขึ้น ด้านการประชาสัมพันธ์ พบว่า มีการเผยแพร่ข่าวงานวันครูในสื่อหลักกว่า 15 แห่ง มีการผลิตป้ายประชาสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบกว่า 85 ชิ้น คลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ 8 เรื่อง และการประสานงานกับหน่วยงานกว่า 232 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้การรับรู้ข่าวสารขยายกว้างไปกว่า 2 ล้านครั้ง จนสามารถเข้าถึงกลุ่มครูและประชาชนในสัดส่วนสูงกว่าปีก่อน ๆ

ข้อมูลเชิงปริมาณสะท้อนผลลัพธ์ที่น่าสนใจ พบว่า มีผู้ตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับกิจกรรมงานวันครูรวม 14,893 คน ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค โดย 88% ของผู้ตอบในส่วนกลางและ 84% ของส่วนภูมิภาคเป็นครูและผู้ปฏิบัติหน้าที่สอนโดยตรง ความพึงพอใจต่อกิจกรรมอยู่ในระดับ “ดีมาก” โดยเฉพาะกิจกรรมพัฒนาวิชาชีพออนไลน์ ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนเรียนกว่า 132,375 คน และมีผู้ผ่านการอบรมรวมกว่า 86,000 คน ถือเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าการจัดงานวันครูกำลังขยับจากงานพิธี ไปสู่งาน “สร้างการเรียนรู้ระดับชาติ” ได้อย่างแน่นอน

ด้านข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ครูจำนวนต้องการเห็นงานวันครูที่ “เข้าถึงง่าย ทันสมัย และมีส่วนร่วมได้มากขึ้น” หลายคนเสนอให้พัฒนาเว็บไซต์ให้ใช้งานคล่องตัว เปิดให้รับชมกิจกรรมย้อนหลังแบบไม่จำกัดเวลา เพิ่มกิจกรรมอินเทอร์แอกทีฟในออนไลน์ เช่น การเสวนา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนิทรรศการที่เข้าชมได้ทั้งปี ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนถึงความต้องการกิจกรรมที่สะท้อนบทบาทครูยุคใหม่ เช่น การจัดแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้าน AI ในห้องเรียน การพัฒนาทักษะการสื่อสารในโลกดิจิทัล หรือการดูแลสุขภาวะครูในยุคที่บทบาทการทำงานซับซ้อนขึ้น

และเมื่อเรามองความสำเร็จผ่านเลนส์ “อิมแพกต์ทางสังคม” การจัดงานวันครูนอกจากสร้างบรรยากาศแห่งความกตัญญูแล้ว ยังสร้างผลลัพธ์ทางสังคมรูปธรรม เช่น มูลค่าการพัฒนาวิชาชีพครูผ่านหลักสูตรออนไลน์กว่า 86,000 คน หากตีมูลค่าคอร์สอบรมทั่วไปเพียงหลักพันบาท ก็สร้างมูลค่าทางสังคมหลายร้อยล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มกำลังใจครู ลดอัตราครูหมดไฟได้ไม่น้อย ซึ่งมีผลต่อคุณภาพการสอนและความผูกพันต่อวิชาชีพอย่างชัดเจน การประเมินเชิงอิมแพกต์จึงเป็นแนวทางสำคัญที่ควรต่อยอดให้เข้มแข็งในการจัดงานวันครูยุคใหม่

อีกหนึ่งการต่อยอดคือ “สวนดุสิตโพล” ได้นำข้อมูลผลการสำรวจดัชนีครูไทยที่ทำต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ไปเขียนบทความเชิงวิชาการ เพื่อสะท้อนแนวโน้มการปรับเปลี่ยนบทบาทของครูในยุคใหม่ ข้อมูลเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของ “ระบบข้อมูลเพื่อพัฒนาครู” ที่เชื่อมงานวันครูเข้ากับนโยบายการศึกษาในภาพใหญ่ที่อาจนำไปใช้สำหรับการกำหนดทิศทางการพัฒนาวิชาชีพครูทั้งปี

เมื่อมองย้อนกลับ เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่างานวันครูปี 2568 คือก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่การจัดงานวันครู 2569 ภายใต้ธีม “พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน” ที่ได้รับการพัฒนาในหลายมิติ ทั้งในด้านรูปแบบการจัดงาน การสื่อสารสาธารณะ และความมีส่วนร่วมของครูและประชาชน ก้าวต่อไปคือการทำให้งานวันครูกลายเป็น “การสร้างสรรค์และพัฒนาครูระดับชาติ” ที่เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ กิจกรรมที่เชื่อมโยงกับโรงเรียน และสื่อโซเชียลที่เปิดพื้นที่ให้ศิษย์ได้ส่งต่อความรู้สึกและความผูกพันถึงครู ทำให้ครูได้รับการมองเห็นในแบบที่จริงใจ ทันสมัย และเข้าถึงผู้คนทุกช่วงวัย เพราะการเหลียวหลังทำให้เราเห็นความสำเร็จและบทเรียน ส่วนการก้าวไปข้างหน้าคือการลงมือทำอย่างมีทิศทางเพื่อสร้างคุณค่าที่มากขึ้นให้ครูไทย

แชร์ข่าว