เชือดล็อตแรก! คดีอั้งยี่–ฟอกเงิน สว. ส่งฟ้อง “8 ผู้ต้องหา” หลังสอบ 9 เดือน
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณี การสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิดฐานอั้งยี่ฯ ตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. นานกว่า 9 เดือน นับแต่วันที่ 6 มี.ค.68 ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษ (บอร์ด กคพ.) มีมติให้รับเป็นคดีพิเศษ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปหลายร้อยคน มีการจัดทำเหตุการณ์จำลองทั้งสถานที่ใช้ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และกระบวนการคัดเลือก พร้อมขอรับภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุจากหลายหน่วยงาน มีการสืบสวนตรวจสอบร่องรอยทางการเงินพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน 1,200 คน พบว่ามีผู้ช่วยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวข้องในพื้นที่ 45 จังหวัด เป็นเหตุให้คณะพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาในฐานะพยาน จำนวน 1,200 ราย เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
โดยอธิบดีดีเอสไอได้มอบหน่วยงานภาย ในสังกัดรวม 10 กองคดีที่เป็นคณะพนักงานสอบสวน เร่งดำเนินการสอบสวนปากคำพยานทุกคน อย่างไรก็ตาม พยานในจังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดขอนแก่น ที่ทำหนังสือร้องเรียนมายังอธิบดีฯ ว่าในการให้ถ้อยคำต่าง ๆ กับพนักงานสอบสวน พยานอ้างว่าถูกข่มขู่ บังคับให้รับสารภาพ
จนกระทั่งล่าสุด คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบเส้นทางการเงินของบุคคล รวมจำนวน 8 ราย ประกอบด้วย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตัวจริง 2 ราย และ เครือข่ายพรรคการเมืองดัง 6 ราย ที่มีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 ฐานกระทำความผิดอั้งยี่ฯ และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้วนั้น
17 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และพนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน ได้มีการประชุมหารือร่วมกันในประเด็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว. ซึ่งจากการสอบปากคำพยานหลายปาก และรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเส้นทางการเงินในห้วงเวลาก่อนการเลือก สว. ระหว่างเลือก สว. และภายหลังเสร็จสิ้นการเลือก สว. พบมีการรับโอนเงินระหว่างกันแบบผิดปกติ ถี่และบ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันในเชิงต่างตอบแทน เมื่อบุคคลนั้นได้รับเลือกเป็น สว.ระดับประเทศ จึงพบว่า มีผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องโดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจนในพฤติการณ์ รวมจำนวนเบื้องต้น 8 ราย จากการกระทำความผิดทางอาญาฐานอั้งยี่และฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการออกหมายทุกคนเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาฟอกเงิน อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งหมดได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนใหญ่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการฮั้ว สว. ซึ่งเมื่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการ ได้ร่วมกันตรวจทานคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว พบว่าไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาและพยานหลักฐานการอั้งยี่และฟอกเงินได้ จึงมีมติเห็นพ้องกันให้สรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาล็อตแรก จำนวน 8 ราย ไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของอัยการต่อไป







