อาชญากรรม

สกัดจับกระบะตู้ทึบ 2 คัน พร้อม จยย. 15 คันกลางดึก ก่อนหลุดชายแดนมุกดาหาร

แชร์ข่าว

วันที่ 15 ธ.ค.68 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.,พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ รอง ผบก.ทล. ,ว่าที่ พ.ต.อ.วิษณุ คำโนนม่วง ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.จิระพันธุ์ รุจิระกุล ,พ.ต.ท.ธนพล ยอดกัญหา รอง ผกก.6 บก.ทล. นำโดย พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สวญ.ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล.,พ.ต.ท.กีรติ เหิมศรีชาติ สว.ทล.5 กก.6 บก.ทล. , ร.ต.อ.พรชัย พวงใส รอง สว.ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล.,ร.ต.ท.ฐิติรัตน์ เสียงอ่อน รอง สว.(ป.) ฯ , ร.ต.ท.ปริญญ สอนสุข รอง สว.(ป.)ฯ , , ด.ต.ชาญณรงค์ ปัตวงค์ , ด.ต.ธงชัย เอื้อสามาลย์ ผบ.หมู่ฯ ช่วยราชการ ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล., ,ร.ต.ท.ฐิติรัตน์ เสียงอ่อน รอง สว.(ป.) , ร.ต.ท.ปริญญ สอนสุข ,ร.ต.ท.สันติภาพ ประณมศรี ,ร.ต.ต.ธีร แก้วเนตร รอง สว(ป.)ฯ ,ด.ต.ครบมิตร ศิลาดล , ด.ต.ชาญณรงค์ ปีตวงค์ , ต.ต.ธงชัย เอื้อสามาลย์,ด.ต.วรพิสิทษฐ์ จีนละบตร ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล.,ด.ต.จักกรี หอมแก้ว , ด.ต.ประเสริฐ คงทน ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล. จับกุมนายพัฒนพงษ์ อายุ 22 ปี ขับขี่รถกระบะตู้ทึบหมายเลขทะเบียน 3 ฒฐ 4275 กทม.,นายณัฐพงษ์ อายุ 30 ปี (ผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบหมายเลขทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา) และ Mr.Kongmany สัญชาติ:ลาว อายุ: 19 ปี ผู้โดยสาร รถกระบะตู้ทึบหมายเลขทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา รถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน 3 ฒฐ 4275 กทม. จำนวน 1 คัน บรรทุกรถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 125i หมายเลขทะเบียน 2 กอ 4857 ระยอง,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 125i หมายเลขทะเบียน 2 กอ 4857 ระยอง,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 8 กอ 997 กรุงเทพ, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 2 กศ 7674 ชลบุรี,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น GiORNO หมายเลขทะเบียน 1 กช 4831 ชลบุรี,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 4ขภ 6012 กรุงเทพ, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 1กต 2338 พัทลุง

,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น GiORNO ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนรถ,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA สีดำ หมายเลขทะเบียน 8 กย 2495 กรุงเทพมหานคร รถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว จำนวน 1 คัน หมายเลขทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา บรรทุกรถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น MT-15-15 หมายเลขทะเบียน 4ขฆ-717177 กรุงเทพฯ,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 1 กศ 7926 ชัยภูมิ

,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 3กค 9439 นครราชสีมา

,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 1กฎ-3229 สระบุรี

,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE 110i หมายเลขทะเบียน 8ขพ-9663 กทม.

,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น GRAND FILANO หมายเลขทะเบียน 3กญ-3796

นครราชสีมา โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ทล.292 กม.0 ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร และ ทล.12 กม.724 ต.หนองสูงเหนือ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

พฤติการณ์แห่งคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ลักลอบส่งออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน(สปป.ลาว) ทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร จำนวน 2 คัน โดยใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน 3 ฒฐ 4275 กทม. ผ่านมาเส้นทาง ทล.12 ต.หนองสูงเหนือ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และ รถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา ผ่านมาเส้นทาง ทล.292 ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร จึงวางแผนสกัดจับ และสามารถสกัดจับรถยนต์เป้าหมายทั้ง 2 คัน ไว้ได้

โดย รถกระบะตู้ทึบหมายเลขทะเบียน 3ฒฐ 4275 กทม.พบนายพัฒนพงษ์ อายุ 22 ปี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอความร่วมมือในการตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมา พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน (ตามรายการสิ่งของถูกตรวจยึด) และรถกระบะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา พบนายณัฐพงษ์ อายุ 30 ปี แสดงตัวเป็นคนขับขี่ และ Mr.Kongmany สัญชาติ ลาว อายุ 19 ปี (นั่งข้างคนขับ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอความร่วมมือในการตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมา พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน (ตามรายการสิ่งของถูกตรวจยึด) สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ที่บรรทุกมาและขอตรวจสอบเอกสารการตัวรถ ปรากฎว่าผู้ขับขี่ ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ได้ อีกทั้ง มีลักษณะพิรุธต้องสงสัย ลุกลี้ลุกลน ให้การไม่ชัดเจน จึงได้ตรวจยึดเพื่อทำการตรวจสอบ สืบสวนขยายผลหาขบวนการผู้กระทำความผิด และได้นำรถที่ถูกตรวจยึดได้ทั้งหมดส่ง พงส.สภ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และ พงส.สภ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามนายณัฐพงษ์ ผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา รับสารภาพว่า ไปรับรถจักรยานยนต์ทั้ง 6 คัน (กทม. 3 คัน ,สระบุรี 2 คัน และนครราชสีมา 1 คัน) โดยจะติดกันกับคนว่าจ้างผ่านทางแอพพลิเคชั่น Line ใช้ชื่อ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) แจ้งว่าให้ไปรับรถจักรยานยนต์ ตามจุดที่แจ้ง และจะได้รับค่าจ้างขนส่งคันละ 1,500 บาท เมื่อส่งรถจักรยานยนต์ถึงมือผู้รับแล้ว ในครั้งนี้ผู้จ้างให้นำรถจักรยานยนต์ทั้งหมดไปส่ง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร โดยตนทำมาแล้วจำนวน 5 ครั้ง จนกระทั่งถูกตรวจยึดในครั้งนี้

สอบถามนายพัฒนพงษ์ ผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบทะเบียน 3ฒฐ 4275 กทม. รับสารภาพว่า ได้ไปรับรถจักรยานยนต์จำนวน 9 คนจากบริเวณชุมชนในเขตประชาอุทิศ กรุงเทพฯ โดยได้รับการติดต่อจาก นายขิงฯ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Line ว่าจ้างให้นำรถไปส่งที่ จ.มุกดาหาร ติดชายแดน สปป.ลาว เมื่อไปถึงสถานที่นัดหมายแล้วจะมีคนมารับต่อ จะได้รับค่าจ้างขนส่งคันละ 1,500 บาท เมื่อส่งรถจักรยานยนต์ถึงมือผู้รับแล้ว นอกจากนี้ยังให้การว่าได้ทำลักษณะนี้หลายครั้งแล้ว

จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้ส่วนใหญ่เป็นรถที่ยังอยู่ระหว่างการเช่าซื้อ โดยบางคัน เพิ่งเช่าซื้อมาได้เพียง 2 วัน ก็ถูกนำไปขายต่อให้กับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว ขบวนการนี้มีแหล่งรับรถจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก ก่อนลำเลียงออกนอกราชอาณาจักรทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) โดยจะเลือกใช้ช่วงเวลากลางดึกในการขนส่ง ผู้ขับขี่รถที่ใช้ลำเลียงจะได้รับค่าจ้าง คันละประมาณ 1,500 – 2,500 บาทต่อคัน ทั้งนี้ จากการขยายผลพบว่าขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. กลุ่มผู้จัดหารถจักยานยนต์หรือหาบุคคลมาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รวมถึงการจัดหารถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายจากแหล่งต่าง ๆ อาทิ รถหลุดจำนำ หรือรถที่ถูกโจรกรรม

2. กลุ่มนักบิน หรือกลุ่มผู้รับหน้าที่ขนส่งและนำทาง

3. กลุ่มนายทุนและผู้ประสานงาน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและสั่งการ

นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดมีการติดต่อสื่อสารและสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน LINE และ Telegram หลายกลุ่ม ภายในกลุ่มพบว่ามีสมาชิกเป็นผู้ขับขี่รถรับจ้างเป็นจำนวนมาก และมีแอดมินทำหน้าที่คอยส่งงาน แจ้งพิกัด กำหนดเส้นทาง และช่วงเวลาในการเดินรถอย่างเป็นระบบ สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของ ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่มีการจัดการและวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน ผู้ว่าจ้าง และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ฝากเตือนภัย ตำรวจทางหลวง กก.6 บก.ทล. มีมาตรการเข้มงวดในการปราบปรามอาชญากรรมบนถนนทางหลวง ทุกรูปแบบ หากพบเห็นหรือมีเบาะแส หรือต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลรถ จยย. ทั้ง 15 คัน สามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจทางหลวง 1193

ข่าวแนะนำ