อาชญากรรม

“เวย์ ไทเทเนียม” อ้างชื่อนักธุรกิจดังหลอกลงทุนหุ้นทิพย์ สูญเงินกว่า 50 ล้าน ตำรวจยันผิดติดคุกเหมือนคดีนานา

แชร์ข่าว

“เวย์ ไทเทเนียม” อ้างชื่อนักธุรกิจดัง ตุ๋นลงทุนเทรดหุ้นทิพย์ สูญเงินกว่า 50 ล้านบาท เผยเหยื่อหอบหลักฐานสลิปโอนเงินแจ้งความเอาผิดฐาน “ฉ้อโกง” แล้ว ด้านตำรวจเผยหากพบผิดติดคุกเช่นเดียวกับนานาไรบีนา

จากกรณีตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุมนางไรบีนา อินทชัย หรือ "นานา ไรบีนา" อายุ 44 ปี ศิลปินดาราชื่อดัง ผู้ต้องหาในคดีหลอกชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิทและ คนในแวดวงบันเทิง ลงทุนธุรกิจทิพย์ต่างๆจนสูญเงินรวมกันกว่า 195 ล้านบาท ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.4 บก.ปอศ. กล่าวถึงความคืบหน้าดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่สามารถตรวจยึดได้มาจากบ้านพักของ นางไรบีนา โดยเฉพาะพยานหลักฐานจำพวกเอกสารต่างๆ เช่นเดียวกันในส่วนของเครื่อง ledger-nano-x (hardware wallet) หรือ เครื่องเก็บเงินดิจิทัล ที่ขณะนี้ได้รับการตอบกลับจาก นางไรบีนา ผู้ต้องหา ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือในการเปิดพิสูจน์ทราบข้อมูลต่างๆภายในเครื่อง

ทั้งนี้เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่กับการที่ นางไรบีนา ผู้ต้องหาคนสำคัญทางคดี ได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี พ.ต.อ.จำนาญ ตอบว่า ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะมองว่าเป็นสิทธิที่เจ้าตัวสามารถทำได้ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่เองก็ต้องทำตามหน้าที่ เมื่อมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษก็ต้องดำเนินคดีสืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ผิดถูกว่าไปตามพยานหลักฐาน และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ทั้งนี้เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่พบหลักฐานการกระทำผิดเชื่อมโยงไปถึงตัว นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนี่ยม ผู้เป็นสามี บ้างหรือไม่ พ.ต.อ.จำนาญ ชี้แจงว่า ในส่วนของ นายปริญญา ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกระทำผิดกับนางไรบีนา ภรรยา ด้วยหรือไม่ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ ขอเวลาดำเนินการพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดก่อน แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดชัดเจนก็จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ผู้สื่อรายงานว่า จากข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข่าวระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทราบว่า ในส่วนของนายปริญญา หรือ เวย์ ไทเทเนี่ยม นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริงออกเป็น 2 เคส โดยเคสแรกจะเป็นการพิสูจน์ทราบว่า นายปริญญา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดร่วมกับ นางไรบีนา ภรรยา ในการหลอกลวงเงินผู้เสียหายกลุ่มแรกหรือไม่

ส่วนเคสที่สอง เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้เสียหายรายหนึ่ง เข้าแจ้งความดำเนินคดี นายปริญญา ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” หลังถูก นายปริญญา หลอกให้นำเงินไปร่วมลงทุนเทรดหุ้นจนสูญเงินรวมกว่า 50 ล้านบาท

โดยจากการสอบปากคำผู้เสียหายให้การอ้างว่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ นายปริญญา ได้ติดต่อชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนเทรดหุ้นกับนักธุรกิจชื่อดังรายหนึ่ง ในลักษณะลงทุนผ่านตนเองที่เป็นคนกลาง โดยอ้างว่า นักธุรกิจคนดังกล่าวมีความเขี่ยวชาญในการเทรดหุ้น สามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงระยะเวลาไม่นาน ด้วยความหลงเชื่อและไว้ใจ จึงตัดสินใจนำเงินร่วมลงทุนผ่านนายปริญญา จำนวนกว่า 50 ล้านบาท

แต่ต่อมาเริ่มสังเกตพบความผิดปกติ รวมถึงเริ่มระแคะระคายเกี่ยวกับพฤติกรรมของนางไรบีนา ภรรยานายปริญญา จึงเกิดความไม่สบายใจ ติดต่อสอบถามส่วนตัวไปที่นักธุรกิจชื่อดังคนดังกล่าว จึงทราบว่า แท้จริงแล้วไม่มีการลงทุนเทรดหุ้นอยู่จริง ซึ่งตัวของนักธุรกิจคนดังกล่าวเองก็ไม่ทราบเรื่อง และ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการลงทุนเทรดหุ้นดังกล่าว

โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการจัดฉากสร้างเรื่องขึ้นมาของนายปริญญา เพียงคนเดียว ด้วยการนำชื่อของนักธุรกิจชื่อดังท่านนี้มาใช้แอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการกุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกลวงเงินอย่างแน่นอน จึงตัดสินใจนำเอกสารหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินตรงเข้าบัญชีนายปริญญา และ แชตข้อความสนทนาต่างๆมามอบให้กับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ประกอบการพิจารณาดำเนินคดีกับนายปริญญา หรือ เวย์ไทเทเนี่ยม

ข่าวแนะนำ