กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง รอง ผกก.3 บก.ทล.,พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี รอง ผกก.3 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พ.ต.ต.พร้อมคุณ ทองบัว สว.ส.ทล.4 กก.3 บก.ทล. , ร.ต.ท.ชัยวัฒน์ วรมิตร รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.3 บก.ทล.,ด.ต.นันท์พิพัฒน์ บุญเพิ่ม ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.3 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายบุญรัตน์ อายุ 46 ปี ในข้อหา ใช้เอกสารราชการปลอม หลังตรวจพบว่าขับรถยนต์หรูติดป้ายภาษีปลอม และมีประวัติขาดชำระภาษียาวนานหลายปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นริมถนน ทล.317 กม.38
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบช่วงถนนหมายเลข 317 ขาออกจังหวัดจันทบุรี ระหว่างปฏิบัติหน้าที่พบรถยนต์ Mercedes-Benz C350E สีขาว ทะเบียนจังหวัดกรุงเทพมหานคร มีท่าทีต้องสงสัย จึงตรวจสอบข้อมูลทะเบียนในระบบ แต่ ไม่พบข้อมูลรถคันดังกล่าวอยู่ในฐานข้อมูลของทางราชการ ตำรวจจึงติดตามและส่งสัญญาณให้หยุดรถ บริเวณหน้าหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงโป่งน้ำร้อน เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด
โดยเจ้าตัวนำสำเนาคู่มือรถและแผ่นป้ายภาษีมาให้ตรวจสอบเมื่อพิจารณาป้ายภาษี พบว่า ระบุทะเบียนกรุงเทพมหานคร หมดอายุวันที่ 8 มีนาคม 2569 แต่ ลักษณะกระดาษ การพิมพ์ไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็น เอกสารราชการปลอม จึงควบคุมตัวไว้ตรวจสอบเพิ่มเติม
จากการสอบถาม นายบุญรัตน์ให้การว่า รถคันนี้เป็นของ นายอาทิตย์ ลูกเลี้ยง โดยนำรถมาให้ตนใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาภรรยาแจ้งว่า นายอาทิตย์ถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงและกำลังหลบหนี ตนจึงใช้งานรถต่อโดยไม่ทราบว่าเป็นป้ายภาษีปลอม อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ พบว่ารถคันนี้ ขาดชำระภาษีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 รถยังอยู่ในกรรมสิทธิ์ของ สถาบันการเงินรายหนึ่ง (ไฟแนนซ์) จึงมีน้ำหนักว่า การติดป้ายภาษีปลอม อาจมีเจตนาหลีกเลี่ยงการติดตามรถคืนจากเจ้าของที่แท้จริง ตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด
หลังแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย