ประชาสัมพันธ์

SACIT จับมือสมาคมปาร์คนายเลิศ จัดนิทรรศการ “ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม” หนุนขึ้นทะเบียนมรดกโลก

แชร์ข่าว

SACIT ร่วมกับ สมาคมปาร์คนายเลิศ จัดนิทรรศการพิเศษ ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม ณ งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ ครั้งที่ 36 ภายใต้แนวคิด “Garden of Tomorrow”18–21 ธันวาคม 2568 ณ ปาร์คนายเลิศ กรุงเทพฯ

 

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ร่วมกับสมาคมปาร์คนายเลิศ จัดนิทรรศการพิเศษ “ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม” ภายในงาน ดอกไม้ปาร์คนายเลิศ ครั้งที่ 36 (The 36th Nai Lert Flower & Garden Art Fair 2025) ภายใต้แนวคิด “Garden of Tomorrow” ระหว่างวันที่ 18–21 ธันวาคม 2568 ณ ปาร์คนายเลิศ กรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่คุณค่าและบทบาทของงานศิลปหัตถกรรมไทยประเภทชุดไทย และงานหัตถศิลป์ที่เกี่ยวเนื่อง ผ่านมุมมองร่วมสมัยในบริบทสากล ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างการรับรู้งานศิลปหัตถกรรมไทยผ่านมุมมองสากล โดยร่วมเป็นผู้สนับสนุนเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญของงานศิลปหัตถกรรมไทย ประเภทชุดไทย และงานศิลปหัตถกรรมที่เกี่ยวข้องกับชุดไทย เพื่อสนับสนุนการยื่นเสนอขึ้นทะเบียนชุดไทยต่อ UNESCO เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

 

ภายในงาน SACIT จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ผ่านรูปแบบ Gallery & Workshop ถ่ายทอดบทบาทของงานศิลปหัตถกรรมไทยในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชีวิต สะท้อนพระราชกรณียกิจของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมการแต่งกายแบบไทย ตลอดจนเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ ตระหนักถึงคุณค่า และร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมสำคัญภายในงานประกอบด้วย

 

1. นิทรรศการ “ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม” จัดแสดงชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรี ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นำมาจัดแสดง ณ บ้านเรือนไทยอายุกว่า 100 ปี เพื่อสะท้อนความงดงาม สง่างาม และภูมิปัญญาดั้งเดิม ตั้งแต่การทอ การย้อม จนถึงการตัดเย็บจากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ

 

2. การจัดแสดงผลงานแฟชั่นและสิ่งทอเชิงประติมากรรม (Sculpture Fashion & Textile Art) จัดแสดง Sculpture งานแฟชั่น และสิ่งทอเชิงประติมากรรมที่ประดิษฐ์ขึ้นจากผ้าไหมไทย และผ้าไทยต่าง ๆ ซึ่งออกแบบจากแรงบันดาลใจของนักออก และผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและสิ่งทอชื่อดัง คุณทิพยพงษ์  ภูษณะพงษ์ และรองศาสตราจารย์(พิเศษ) ระพี  ลีละสิริ  อีกทั้ง ยังมีผลงานการออกแบบแฟชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานจักสานไทย ของนักศึกษาสาขาวิชาออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตมาร่วมจัดแสดงอยู่ใจกลาง The Maze Garden ที่เป็น Highlight หลักของงาน 3. กิจกรรม Workshop งานศิลปหัตถกรรมไทยโดยช่างฝีมือที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม ภายใต้ SACIT Craft Collection 2025 เปิดพื้นที่การเรียนรู้ ถ่ายทอดกระบวนการสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ไทยให้เข้าถึงได้ในมุมมองสากล

 

ผศ. ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวว่า “สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) โดยสำนักพัฒนางานศิลปหัตถกรรม ฝ่ายรับรองมาตรฐานงานศิลปหัตถกรรม ร่วมกับสมาคมปาร์คนายเลิศ  จัด งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศครั้งที่ 36 (The 36th Nai Lert Flower & Garden Art Fair 2025) ซึ่งได้ริเริ่มขึ้นโดยท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 และจัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี สำหรับการจัด “งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ ประจำปี พ.ศ. 2568 นี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Garden of Tomorrow” ที่มุ่งสะท้อนความงดงามของธรรมชาติควบคู่กับแนวคิดแห่งความยั่งยืน

 

งานนี้ยังจัดขึ้นด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงมีการจัดนิทรรศการ “ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม”โดย พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  จำนวน 8 แบบ เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระราชทานแนวทาง “ชุดไทยพระราชนิยม” ให้เป็นต้นแบบแห่งความสง่างามของสตรีไทย และเป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนภูมิปัญญาดั้งเดิม ตั้งแต่การทอ ย้อม ไปจนถึงการตัดเย็บจากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งชุดเหล่านี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความยั่งยืนทางวัฒนธรรมไทย ที่นานาชาติต่างให้การยอมรับ ก่อนการผลักดันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปีหน้า” 

 

นอกจากการจัดแสดงนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยมแล้ว ภายในงานยังมีไฮไลต์พิเศษจากการจัดแสดงผลงานแฟชั่นและสิ่งทอร่วมสมัย ที่ตีความ ชุดไทยดุสิต และ ชุดไทยจักรี ผ่านมุมมองของนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและสิ่งทอชื่อดัง รวมถึงผลงานจากนักศึกษาด้านการออกแบบแฟชั่น ประกอบด้วย

ผลงานของ อาจารย์ทิพยพงษ์ ภูษณะพงษ์ นักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและสิ่งทอ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Tipa Atelier นำเสนอผลงาน DIVINE BLOSSOM – “ดอกไม้แห่งความศักดิ์สิทธิ์  ดอกมณฑาทิพย์ และ ชุดไทยดุสิต” ที่ถ่ายทอดความอ่อนโยนและพลังศักดิ์สิทธิ์ของดอกมณฑาทิพย์ ผสานเส้นสายอันงดงามของชุดไทยดุสิต สู่งานออกแบบร่วมสมัยเหนือกาลเวลา และผลงาน ETERNAL SIAM ที่นำชุดไทยจักรีมานำเสนอในมิติใหม่ด้วยโครงสร้างเรขาคณิตแบบมินิมัล ลายถูกจัดวางด้วยจังหวะแบบกริด เพือสร้างบาลานซ์ระหว่างความอ่อนโยนและโครงสร้างที่ทันสมัย

 

ผลงานจาก รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) ระพี ลีละสิริ นักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและสิ่งทอ ถ่ายทอดมิติใหม่ของชุดไทยพระราชนิยมผ่านผลงาน “ทิพยพัสตราภรณ์” ซึ่งนำชุดไทยดุสิต (Thai Dusit) ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดไทยพระราชนิยมที่สง่างามและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยเป็นการนำมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทยมาผสานกับเทคนิคและแนวคิดการออกแบบสมัยใหม่เพื่อสร้างสรรค์อาภรณ์ที่ผสมผสานระหว่างประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์กับแฟชั่นชั้นสูง(Haute Couture) และผลงาน “สีสันสานสัมพันธ์” ที่นำชุดไทยจักรี ( Thai Chakri) ซึ่งเป็นชุดไทยพระราชนิยมที่สง่างามและเป็นรู้จัก ด้วยการผสานโทนสีที่ตัดกันอย่างกล้าหาญ ( Contrast and Harmony) ใช้ดอกเบญจมาศ สื่อถึงความจริงใจ อายุยืนยาว ความสูงส่ง ความบริสุทธิ์และความรื่นเริง นำเสนอเทคนิคงานฝีมือไทยประเพณีเข้ากับแนวคิดการปักชั้นสูง (Haute Couture) ของตะวันตก

 

และผลงานจากนักศึกษาสาขาวิชาออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่วมจัดแสดง อาทิ ชุดผลงาน “เส้นสานแห่งแสง” ออกแบบโดย นายกฤตภาสธีธัช ภูนิติธานันท์ ที่นำแรงบันดาลใจจากเฟอร์นิเจอร์โคมไฟสานมาผสมผสานเทคนิคจักสานไทยกับงานแฟชั่นร่วมสมัย และชุดผลงาน “Hidden Dangers Within Beauty” ออกแบบโดย นายชาติชาย อามาตย์ ถ่ายทอดความงามและอันตรายที่ซ่อนเร้นของแมงกะพรุน ผ่านรูปทรงและการเคลื่อนไหวอันพลิ้วไหว ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์อันชวนหลงใหล

 

SACIT ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานศิลปหัตถกรรมไทย ร่วมชมนิทรรศการ “ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม” โดยพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 18–21 ธันวาคม 2568 ณ ปาร์คนายเลิศ กรุงเทพฯ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานคุณค่าศิลปหัตถกรรมไทยสู่สังคมร่วมสมัยได้อย่างยั่งยืน

ข่าวแนะนำ

แชร์ข่าว