สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เดินหน้าปฏิบัติการครั้งสำคัญ เปิดตัว "โครงการสร้างอาชีพและต่อยอดภูมิปัญญาวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่น กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 13 สาขา” ชูจุดแข็ง "Local Food" หรืออาหารพื้นบ้าน ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งให้ชุมชนทั่วประเทศ พร้อมผลักดันไทยสู่ครัวโลกอย่างยั่งยืน โดยมีนายวิไลน์ อรุณตุม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ให้เกียรติร่วมแถลง
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 นายโสวัฒน์ อยู่คงดี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สทบ. เปิดเผยว่า โครงการนี้ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานราก โดยมีเป้าหมายเพื่อ "สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับชุมชนท้องถิ่น" ผ่านการใช้ภูมิปัญญาด้านอาหารและวัฒนธรรม
"เรามุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพกองทุนฯ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการลดความไม่เสมอภาคในการกระจายรายได้ และพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีที่รวดเร็ว" นายโสวัฒน์กล่าว
เป้าหมายหลัก พัฒนา 5 มิติ สร้างผู้ประกอบการชุมชน โดย สทบ. เล็งเห็นถึงคุณค่าของวัตถุดิบและอาหารพื้นถิ่น จึงได้นำทุนทางวัฒนธรรมนี้มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 5 ข้อ ได้แก่
1.พัฒนาทักษะการบริหารจัดการ สร้างความรู้ความสามารถในการบริหารธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยวชุมชน
2.สืบสานและต่อยอด ส่งเสริมการสืบสาน อนุรักษ์ และต่อยอดเมนูอาหารพื้นถิ่นให้มีชีวิตชีวา
3.นวัตกรรมอาหาร เปิดโอกาสให้ชุมชนพัฒนาเมนูอาหารให้ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
4.สร้างเครือข่ายบูรณาการ สร้างเครือข่ายอาชีพใหม่ที่เชื่อมโยงชุมชนเข้าด้วยกัน
5.เพิ่มมูลค่าและอัตลักษณ์ ยกระดับอาหารพื้นถิ่นให้มีมาตรฐาน มีอัตลักษณ์โดดเด่น และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ภายในงานแถลงข่าวมีกิจกรรมสาธิตการทำอาหาร “วัตถุดิบพื้นถิ่นไทย สู่การยกระดับอาหารร่วมสมัยโดยเชฟปึง (นายไวภพ แซ่ปึง) ด้วยเมนูสปาเกตตี้ไข่ผลัมน้ำพริกอ่อง และยังมีเมนูจัดแสดงในงานโดยเชฟปึงอีก เช่น ซูชิกุ้งผัดกะปิครีมซอสสะตอ, กระทงทองพะแนงไก่ และพิซซ่าลาบหมูชีส ซึ่งเป็นการดึงเอาอัตลักษณ์ของทั้ง 4 ภาค มาผสมผสานอย่างร่วมสมัย
นายโสวัฒน์กล่าวถึงระดับการพัฒนาต่อยอดอาหารพื้นถิ่นไทยว่า จะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 กระตุ้นให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว สามารถนำมาพัฒนาเป็นอาชีพได้ ระดับที่ 2 สามารถทำให้อาหารที่ทำกินกันอยู่ภายในบ้าน ถูกปากคนในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจ จนไปถึงในระดับสุดท้าย คือการนำไปขยายผลในผู้บริโภคระดับสากล จำเป็นจะต้องมีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับด้วยนั่นเอง
ด้านเชฟไวภพ เสริมว่า การต่อยอดอาหารไทยพื้นถิ่น ยังจำเป็นต้องพัฒนาในเรื่องของสูตรอาหารให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้สามารถสืบทอดไปต่อได้ และการทำอาหารทุกครั้งจะได้รสชาติที่เหมือนเดิมสร้างความประทับใจได้ทุกครั้ง
โครงการนี้เปิดโอกาสให้กองทุนหมู่บ้านฯ ที่สนใจ สมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้ จนถึงเดือนมกราคม 2569 โดยจะมีการคัดเลือกเมนูอาหารจำนวน 26 เมนู เข้าสู่กระบวนการอบรมเสริมศักยภาพด้านศิลปะการทำอาหาร เป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน รวมทั้งยังมีการประกวดอาหารวัฒนธรรมแบบจำนง 13 รางวัลในเดือนมีนาคม 2569 พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณ และอุปกรณ์สนับสนุนการสร้างอาชีพ







