ประชาสัมพันธ์

"กลาโหม" เปิดสัมมนานานาชาติ “ระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติ” ยกระดับความพร้อมกองทัพ

แชร์ข่าว

กระทรวงกลาโหมจัดสัมมนานานาชาติพิเศษ “เรื่องอาวุธสังหารอัตโนมัติ (LAWS)” แลกเปลี่ยนความรู้เอไอและโดรนทางทหาร ระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศหารือเชิงลึก วางแผนพัฒนากำลังพลของกองทัพไทย เผย “นิด้าโพล” ชี้ประชาชนหนุนความสำคัญการใช้โดรนต่อภารกิจทางการทหารและความมั่นคงของไทย

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.68 ที่ผ่านมา พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนานานาชาติพิเศษ หัวข้อ “อาวุธสังหารอัตโนมัติ” หรือ Lethal Autonomous Weapons Systems (LAWS) ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมี ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ รองปลัดกระทรวงกลาโหม หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรโอมาน ผู้ช่วยฑูตทหารต่างประเทศ สมาคม ตัวแทนจากภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วม เวทีหารือกฎหมายระหว่างประเทศและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระดับสากล พร้อมทั้งเปิดเผยผลสำรวจ “นิด้าโพล” เรื่องโดรนทางการทหารและความมั่นคง

การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) และระบบอากาศยานไร้คนขับ (Drone) รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นการใช้เอไอและโดรนทางทหารอย่างมีความรับผิดชอบ ประเด็นด้านกฎหมายมนุษยธรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติ รวมถึงผลกระทบในด้านต่าง ๆ และแนวโน้มการใช้ระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติในอนาคต โดยมีวิทยากรระดับนานาชาติ ได้แก่ ดร.ออสติน ไวแอตต์ (Dr. Austin Wyatt) นักวิจัยผู้มีผลงานวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการทหารในระบบระยะไกลและอัตโนมัติ การประยุกต์ใช้เอไอทางการทหารและความมั่นคงในภูมิภาค เป็นผู้บรรยายหลัก พร้อมด้วยวิทยากรและผู้ร่วมอภิปรายจากสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมของไทย ได้แก่ ผศ.ดร.ปภาวดี ธโนดมเดช ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" (NIDA Poll) การเสวนาฯ ดำเนินรายการโดย พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม

สำหรับหัวข้อสำคัญในการเสวนา “อาวุธสังหารอัตโนมัติ” หรือ Lethal Autonomous Weapons Systems (LAWS) ประกอบด้วย ผลกระทบของระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติต่อสงครามสมัยใหม่ แนวโน้มและโอกาสของภัยคุกคามและการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ข้อพิจารณาด้านจริยธรรม มนุษยธรรม กฎหมายระหว่างประเทศ และการกำกับดูแลผลกระทบทางเทคโนโลยีต่อสงครามในอนาคต

ด้าน ผศ.ดร.สุวิชา เปิดเผยผลสำรวจนิด้าโพลถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการใช้โดรนในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 91.08 เห็นด้วยกับการใช้โดรนในภารกิจทางทหารและความมั่นคงของไทย นอกจากนี้ ร้อยละ 57.25 ระบุว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตมนุษย์ ขณะที่ร้อยละ 51.50 ระบุว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในภารกิจการป้องกันภัย

“ถือเป็นช่วงเวลาทองของกองทัพที่ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการจัดซื้ออาวุธ เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับสงครามในอนาคต แต่ยังช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถกำหนดทิศทางการพัฒนากำลังพล นโยบาย และการลงทุนด้านเทคโนโลยีความมั่นคง การผสมผสานความรู้ด้านเทคนิค จริยธรรม และกฎหมายที่ได้จากการสัมมนาจะช่วยให้ประเทศไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสงครามรูปแบบใหม่ได้อย่างมีหลักการและคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน ภูมิภาค และประชาคมโลก อย่างไรก็ตามการใช้งานอาวุธดังกล่าวยังคงต้องมีมนุษย์อยู่ในกระบวนการตัดสินใจโจมตีอย่างรับผิดชอบ” ผศ.ดร.สุวิชา กล่าว

ขณะที่ ดร.ออสติน เสนอว่าประเทศไทยควรใช้โอกาสที่ภาคประชาสังคมสนับสนุนการใช้งานโดรนและอาวุธอัตโนมัติที่จะสามารถสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงได้เอง รวมถึงเริ่มทดลองใช้งานระบบดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อให้กองทัพพร้อมเท่ากันการเปลี่ยนแปลงของสากล นอกจากนี้ ไทยสามารถมีบทบาทนำในการหารือแนวทางการพัฒนา การใช้งาน และกฎหมายระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในประเด็นเดียวกันนี้ ผศ.ดร.ปภาวดี เน้นย้ำให้กองทัพสำรวจและทบทวนกฎหมายภายในรองรับการใช้งานอาวุธอัตโนมัติ โดยคำนึงถึงภาพลักษณ์ในประชาคมระหว่างประเทศในการใช้งานอาวุธดังกล่าวอย่างรับผิดชอบ และเป็น “Legitimate Armed Forces” ที่เป็นแบบอย่างในภูมิภาค

ข่าวแนะนำ

แชร์ข่าว