การเมืองปลายปี 2568 กำลังดำเนินไปในสภาวะที่ทุกพรรคอ่านเกมของกันและกันทะลุปรุโปร่ง ราวกับอยู่ในสนามที่ไม่มีเงาให้หลบ ทุกจังหวะ ทุกความเคลื่อนไหวล้วนสะท้อนว่าศึกใหญ่ “ซักฟอก–ยุบสภา–แก้รัฐธรรมนูญ” ไม่ได้เป็นเพียงสามประเด็นแยกกัน แต่ถูกมัดรวมเป็นเกมเดียวที่กำลังจะกำหนดอนาคตของการเลือกตั้งปี 2569 และอำนาจทางการเมืองของประเทศไทยในทศวรรษหน้า
แม้อนุทิน ชาญวีรกูล จะประกาศย้ำหนักแน่นว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นภายในเดือนมกราคม 2569 ตามข้อตกลง MOA กับพรรคประชาชน แต่ในทางยุทธศาสตร์ พรรคภูมิใจไทยมีแรงผลักให้ต้องการยุบสภา “เร็วกว่าใคร” มากกว่าที่ประกาศไว้ เพราะการยุบสภาทันทีจะช่วยหยุดกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญบางประเด็นที่พรรคไม่เห็นด้วย อีกทั้งยังทำให้พรรคใช้โมเมนตัมจากการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้และการเตรียมเปิดโครงการ “คนละครึ่ง เฟสสอง” สร้างคะแนนนิยมให้เต็มกำลังในช่วงที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุด
ในอีกด้านหนึ่ง กลับเป็นพรรคเพื่อไทยที่ไม่ต้องการให้เกิดการยุบสภาเร็วในเวลานี้ เพราะพรรคยังไม่พร้อมลงสนามเลือกตั้งใหม่อย่างสมบูรณ์ การรีรอไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงเป็นการยื้อเกมเพื่อรักษาโอกาสของตัวเอง หากรัฐบาลอนุทินเกิด “มีอันเป็นไป” ด้วยแรงกดดันภายในหรือปัญหาทางการเมือง พรรคเพื่อไทยอาจกลับมากุมอำนาจผ่านสภาชุดเดิมได้ทันที ซึ่งยังมีวาระกินยาวถึงปี 2570 และที่สำคัญ พรรคเพื่อไทยยังคงเป็นพรรคใหญ่เพียงพรรคเดียวที่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ คือ นายชัยเกษม นิติศิริ ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นยังไม่มีตัวเลือกที่พร้อมชูเป็นผู้นำประเทศอย่างแข็งแรงเทียบเท่า
ส่วนพรรคประชาชนนั้นมีเดิมพันชัดเจน คือการผลักดันแก้รัฐธรรมนูญให้ผ่านวาระสามตามที่ผู้กำกับทิศทางพรรคต้องการ จึงพยายามส่งสัญญาณให้เพื่อไทย “ชะลอ” การยื่นซักฟอกออกไปก่อน เพื่อไม่ให้รัฐบาลล้มจนกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญสะดุดกลางทาง ทั้งสองพรรคต่างมีแรงจูงใจในการยื้อเวลา แม้ด้วยเหตุผลต่างกัน แต่ผลลัพธ์คือทั้งคู่ไม่ต้องการให้ยุบสภาเร็วตามเกมของภูมิใจไทย
เมื่อภูมิใจไทยรู้ไพ่ของเพื่อไทยและประชาชนอย่างถ่องแท้ พรรคจึงดึงทั้งสามประเด็น-ยุบสภา ซักฟอก แก้รัฐธรรมนูญ-เข้ามาเป็นเรื่องเดียวกัน เพื่อบีบให้ทุกฝ่ายต้องเปิดหน้าไพ่ ไม่สามารถใช้เทคนิคยืดเวลาเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในสภาวะที่คะแนนนิยมและความพร้อมยังไม่ลงตัว ความเคลื่อนไหวนี้จึงเป็นการผลักเกมระดับสูง ที่แต่ละฝ่ายต้องตัดสินใจโดยไม่มีพื้นที่ให้ผิดพลาดแม้ครึ่งก้าว
ทั้งหมดนี้ทำให้เกมการเมืองปลายปี 2568 ดูเดือดขึ้นทุกวัน เพราะทุกพรรคต่างกำลังฉวยช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง ท่ามกลางความจริงที่ไม่มีใครปิดบังใครได้อีกแล้ว การยุบสภา-ซักฟอก-แก้รัฐธรรมนูญ จึงไม่ใช่เพียงประเด็นที่สังคมจับตา แต่เป็นกลไกรีเซ็ตอำนาจครั้งใหญ่ ที่จะกำหนดว่าใครจะก้าวขึ้น และใครจะหายไปจากกระดานในศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงในปี 2569 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
#ยุบสภา2569 #ซักฟอกรัฐบาล #แก้รัฐธรรมนูญ #ภูมิใจไทย #เพื่อไทย #พรรคประชาชน #การเมืองไทย #เลือกตั้ง2569 #วิเคราะห์การเมือง #ข่าวการเมืองวันนี้







