ดูเหมือนว่า จะบล็อกเอาไว้ไม่อยู่ สำหรับ “งูเห่า” พรรคเพื่อไทย ล่าสุด 2 สส.หญิง พรรคเพื่อไทย สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ และ สรัสนนท์ อรรณนพพร ไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมาแล้ว
หนึ่งคือ “สุดารัตน์” ลูกสาวของ ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี หลายสมัย จากหลายพรรค เช่น ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ซึ่งตระกูลพิทักษ์พรพัลลภถือเป็นตระกูลการเมืองที่มีอิทธิพลในจังหวัดอุบลราชธานี โดยชูวิทย์ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปก่อนหน้านี้แล้ว
อีกหนึ่งคือ “สรัสนนท์” เป็นสมาชิกของตระกูลอรรณนพพร ซึ่งถือเป็น “บ้านใหญ่” ของจังหวัดขอนแก่น ที่มีบทบาททางการเมืองมาอย่างยาวนาน มี สส.ในตระกูลถึง 4 คน เช่น พงศกร อรรณนพพร ดวงแข อรรณนพพร และบัลลังก์ อรรณนพพร ซึ่งก่อนหน้านี้พงศกรได้ไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทยมาก่อนแล้ว
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะสอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่า
“มั่นใจว่าคนที่มาจากชนบทอย่างตนและหลายคนในพรรคไม่สบายใจ จึงเห็นคนเริ่มทยอยออกกัน และคิดว่าไม่จบแค่นี้ ตอนนี้ยังไม่ถึง 50%”
โดยศักดิ์ดา เป็นอดีต สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยเป็นกลุ่มแรก พร้อม สส.อีก 8 คน
และตามมาด้วยการลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ ของ นพดล ปัทมะ ที่ให้เหตุผลว่าลาออกเพื่อไปทำงานด้านกฎหมายและการพัฒนาคน ขณะเดียวกันก็มีการจับตาไปที่ โกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา ว่าจะลาออกไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่
ขณะที่การเคลื่อนไหวที่สร้างแรงสั่นสะเทือนมากที่สุด คือการลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งมีปัญหาเรื่อง “ผู้มีบารมีในพรรค” แม้ว่าล่าสุด จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ลูกชายของสมพงษ์ จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ของเพื่อไทยก็ตาม
แต่กระนั้น หลังวิบากกรรมที่เกิดขึ้นกับ ทักษิณ ชินวัตร จากกระบวนการทางกฎหมายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งการยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 สภาพบังคับให้ต้องจ่ายภาษีหุ้นชินคอร์ปกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท และการแก้ไขระเบียบการพักโทษของนักโทษในเรือนจำ
แม้จะเป็นกระบวนการยุติธรรมตามปกติ แต่ก็ทำให้เกิดภาพสะท้อนว่า “บารมี” ของทักษิณนั้นเริ่มหดหายหรือไม่
ซึ่งน่าจะกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพลพรรคเพื่อไทย ประกอบกับปัญหาภายในหลังการปรับโครงสร้างใหม่ อาจทำให้บางกลุ่มที่เป็นแกนนำเก่าแก่ในพรรค ตัดสินใจแยกกันเดิน ด้วยการรวมตัวกันตั้งพรรคการเมืองใหม่
รวมถึง “2 ส.” เซียนการเมืองอย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ยังต้องจับตาการตัดสินใจจนถึง “วินาทีสุดท้าย”
สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางปี่กลองการเมือง “งูเห่า” มีแนวโน้มที่จะถูก “ดูด” เข้าไปรวมกับพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคอื่นที่สามารถให้ ความมั่นคงทางการเมือง และ ความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ได้ดีกว่า
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของ สส. มักเร่งตัวขึ้นในช่วงใกล้การเลือกตั้ง และน่าสนใจการรวบรวมรายชื่อ สส. เพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเสมือนเป็นการ “เช็กชื่อ” และตรวจแถว สส. ว่าจะมีใครกลายเป็น “งูเห่า” ย้ายพรรคตามมาอีกหรือไม่
#เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #ทักษิณ #ย้ายพรรค #บ้านใหญ่การเมือง #เลือกตั้ง69 #การเมือง







