เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ วิทยาลัยเทคนิคพะเยา และโรงเรียนอนุบาลพะเยา จังหวัดพะเยา เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการศึกษา และรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้พบปะและมอบนโยบายแก่บุคลากรทางการศึกษา โดยกล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้อนุมัติหลักเกณฑ์ที่เปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีผลงานเชิงประจักษ์ และได้รับรางวัลระดับชาติหรือระดับนานาชาติ สามารถนำรางวัลดังกล่าวมาใช้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติในการเสนอขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะสู่ระดับ “เชี่ยวชาญ” และ “เชี่ยวชาญพิเศษ” ได้
ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับครูที่มีความสามารถและสร้างสรรค์ผลงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะพิจารณาจากหลักฐานการได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นธรรม ลดปัญหาข้อถกเถียงและความไม่ชัดเจนในอดีต โดยจะออกหลักเกณฑ์ที่มีรายละเอียดชัดเจน สามารถเทียบเคียงได้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือการตีความที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงสวัสดิการของคุณครูที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญ โดยระบุว่า ต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลคุณครู ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองของเด็ก ๆ อันเป็นอนาคตของประเทศ ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะบ้านพักครูที่ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในหลายจังหวัด พบว่าสภาพบ้านพักครูจำนวนมากมีความเก่าและเสื่อมโทรม จึงจำเป็นต้องเร่งดูแลและปรับปรุงให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณ เพื่อก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยในลักษณะชุมชนครู เพื่อให้ครูได้อยู่อาศัยรวมกัน เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และสร้างสังคมการทำงานที่เข้มแข็ง
“โครงการดังกล่าวมีแผนบรรจุไว้ในงบประมาณปี 2570 ซึ่งคาดว่า อาจารย์จะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการถึงช่วงเดือนเมษายน 69 ก่อนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ โดยในช่วงเวลาที่เหลือจะเร่งผลักดันนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และขอฝากให้ผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการร่วมกันผลักดันให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในรัฐบาลชุดต่อไปด้วย”
จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการ “อาชีวะ–ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน เทศกาลปีใหม่ 2569” ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา บูรณาการความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีการตั้งจุดบริการอาชีวะอาสากว่า 150 จุดทั่วประเทศ เพื่อให้บริการตรวจเช็กและซ่อมแซมยานพาหนะเบื้องต้น รวมถึงดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณครู อาจารย์ และนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาที่เสียสละเวลาส่วนตัวมาร่วมให้บริการประชาชน พร้อมระบุว่า โครงการดังกล่าวสะท้อนบทบาทของอาชีวศึกษาที่มีส่วนสำคัญในการช่วยลดอุบัติเหตุ และสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ







