การเมืองทั่วไป

"สีหศักดิ์" ดักทาง! "ฮุน มาเนต" หยุดยิงต้องจริงใจ เบรกปมเขตแดน JBCต้องรอรัฐบาลใหม่ เตือนผู้นำกัมพูชาหยุดยั่วยุด้วยวาทกรรม

แชร์ข่าว

วัดใจเพื่อนบ้าน! "สีหศักดิ์" ส่งสัญญาณเข้มถึงกัมพูชา หลังครบกำหนดหยุดยิง 72 ชั่วโมง ชี้ความสัมพันธ์ยังเปราะบางเหมือนแก้วร้าว จี้ "ฮุน มาเนต" หยุดใช้คำพูดปลุกระดมสร้างความเข้าใจผิด พร้อมกางข้อกฎหมายเบรกประชุมปักปันเขตแดน (JBC) ยันไทยไม่ได้ประวิงเวลา แต่ต้องรอ "รัฐบาลใหม่" ตัดสินเพื่อความรอบคอบ ย้ำอธิปไตยไทยต้องชัด พื้นที่ต้องปลอดภัยก่อนลงมือปักปัน

วันที่ 30 ธ.ค.เวลา 09:45 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการหารือ 3 ฝ่ายระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย กัมพูชา และจีน ที่เมืองหยูซี มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีจีนเป็นเจ้าภาพ ว่าเราอยากทำให้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นการหยุดยิงที่ยั่งยืน และนำมาสู่การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาจะเดินต่อไปอย่างไร เพราะช่วงนี้เพิ่งตกลงหยุดยิงกัน จึงยังมีความเปราะบางอยู่ ดังนั้นก็ควรหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือบั่นทอนการหยุดยิง อาทิ การปล่อยโดรน การใช้คำพูดยั่วยุ หรือ การออกถ้อยแถลงระดับผู้นำต่างๆ ซึ่งต้องระมัดระวัง และต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน พร้อมยกตัวอย่างกรณีที่ นายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ออกมาพูดว่าการหยุดยิงนั้น ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายกัมพูชาแพ้ เรื่องนี้ก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เพราะหากตั้งคำถามแบบนี้ เราก็ต้องถามกลับไปว่าใครเป็นฝ่ายขอหยุดยิง แต่ตนเองคิดว่าเราควรก้าวข้ามตรงนั้น และมาทำให้การหยุดยิงมีความยั่งยืน รวมถึงสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน

เมื่อถามว่าล่าสุดที่มีการตรวจพบโดรนจำนวน 250 ลำ ลุกล้ำเข้ามาบริเวณชายแดน และทหารไทยเหยียบกับทุ่นระเบิดสังหารบุคคลครั้งที่ 11 จะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมงหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และดูด้วยว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ ซึ่งประเด็นที่เราคุยกันในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC คือการมี Hotline ฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ เราต้องตรวจสอบไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด และอีกประเด็นหนึ่งคือฝ่ายกัมพูชาเหมือนพยายามเร่งรัดให้เกิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา หรือ JBC ที่เกี่ยวกับการปักปันเขตแดน จึงต้องมาดูกันต่อ เพราะผลการประชุม GBC ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขณะเดียวกันในการประชุม JBC ก็ต้องมาดูข้อกฎหมาย ว่าในช่วงรัฐบาลรักษาการจะต้องขออาณัติจากรัฐบาลหรือไม่ เพราะเป็นข้อตกลงที่ผูกพันไปถึงรัฐบาลใหม่ และการประชุม JBC จะประชุมได้ช่วงไหน

“ขอย้ำว่า มันมีขั้นตอนอยู่ ไม่ใช่จะสามารถจัดประชุมได้ทันที แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้ประวิงเวลา เพียงแต่พื้นที่ต้องปลอดภัยก่อน เพราะเราต้องลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อปักปันเขตแดน”นายสีหศักดิ์ กล่าว

นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงความชัดเจนในการปล่อยตัว 18 เชลยศึกของกัมพูชาว่า เป็นไปตามที่เราพูดคุยกันคือหยุดยิง 72 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นจึงอยากย้ำว่าอยากให้เคารพการหยุด และสิ่งที่พูดคุยกันไว้ ก็ต้องรักษาคำพูด

เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศจะใช้แนวทางทางการทูตอย่างไรในการพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เราพูดคุยกันได้อยู่แล้ว และถือว่าทางการทูตได้คุยกันแล้ว เพราะตอนนี้หากมีเหตุการณ์อะไรก็ต้องพูดคุยกัน นอกจากนี้ฝ่ายทหารก็พูดคุยกันอยู่

เมื่อถามว่าประเมินฉากทัศน์หลังหยุดยิง 72 ชั่วโมงอย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า หากไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นใน 72 ชั่วโมง เช่น ไม่เกิดเหตุการณ์ยั่วยุ หรือ เก็บกู้ทุนระเบิด เราก็เดินหน้าสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ

เมื่อถามว่าการปักปันเขตแดนทางสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาไม่ยอมรับเขตแดนที่ทหารไทยปักปันจะเป็นปัญหาหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า บริบทมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ฉะนั้นการประชุม JBC จะมีขึ้นเมื่อใดเราก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มันมีขั้นตอนของมันอยู่ และอาจจะไปถึงรัฐบาลใหม่ จึงจะประชุมกันได้ ซึ่งเรายังไม่รู้ท่าทีรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร และจะมีการทบทวน MOU 43 หรือไม่ ก็ยังไม่มีข้อยุติ

“เรามีการหยุดยิง การหยุดยิงนั้นถือว่าเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน เราอยากให้ทั้งสองฝ่ายเคารพการหยุดยิง เพราะเขาก็สูญเสียพอสมควร ประชาชนของเขาก็อยากจะกลับเข้าสู่พื้นที่เดิม เพราะฉะนั้นเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ที่จะทำให้การหยุดยิงที่ตกลงกันไว้ เป็นการหยุดกินที่ยั่งยืนถาวร ส่วนปัญหาอื่นเราก็ควรจะพูดคุยกันได้ในฐานะเพื่อนบ้าน” นายสีหศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการปล่อยตัว 18 เชลยศึกของกัมพูชา เพียงสั้นๆ ว่าเดี๋ยวรู้ตอนเที่ยง

ข่าวแนะนำ