การเมืองทั่วไป

"ผอ.กกต.กทม." แจง "พรรคประชาชน" เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.กทม.เขต 33 ชี้ทำได้ตามกฎหมาย ได้หมายเลขเดิม

แชร์ข่าว

วันที่ 30 ธันวาคม 2568 ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง กรุงเทพมหานคร ว่าที่ร้อยตรีสัมพันธ์ แสงคำเลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาชนมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 33 บางกอกน้อย - บางพลัด หลังจากผู้สมัครเดิมถูกตรวจพบว่าขาดคุณสมบัติ เนื่องจากมีสถานะเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินจากยาเสพติด

ว่าที่ร้อยตรีสัมพันธ์ เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 50 กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้งไว้ชัดเจน โดยระบุว่า ในกรณีที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาการรับสมัครรับเลือกตั้งนั้น พรรคการเมืองสามารถถอนหรือเปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครได้ใน 3 กรณี ได้แก่ กรณีผู้สมัครเสียชีวิต, กรณีขาดคุณสมบัติ และกรณีมีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด

สำหรับกรณีนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้สมัครเดิมได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ส่งผลให้เป็นผู้ที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองนั้นอีกต่อไป จึงเข้าข่าย “ขาดคุณสมบัติ” ตามมาตรา 41 (3) ของพรป.ฯ ทำให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินการถอนและเปลี่ยนตัวผู้สมัครได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ว่าที่ร้อยตรีสัมพันธ์ ระบุเพิ่มเติมว่า แม้พรรคการเมืองจะได้ดำเนินการทำไพรมารีโหวตและคัดเลือกผู้สมัครมาแล้ว แต่การถอนและเปลี่ยนแปลงผู้สมัครในช่วงเวลาที่กฎหมายเปิดโอกาสให้กระทำได้ ยังถือว่าเป็นไปตามระเบียบ ทั้งนี้ ผู้สมัครรายใหม่จะยังคงได้รับหมายเลขผู้สมัครเดิม โดยมีเพียงขั้นตอนเพิ่มเติมคือการชำระค่าสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในอัตรา 10,000 บาท

ผู้อำนวยการ กกต.กทม. กล่าวด้วยว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2560 และมีการปรับใช้มาอย่างต่อเนื่องในปี 2562, 2566 และ 2568 ไม่ได้จำกัดเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น โดยล่าสุดได้รับรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ก็มีกรณีการถอนตัวผู้สมัครเช่นกัน แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครรายใหม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 93

ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร อาจถูกมองว่าเป็นการกดดันหรือสร้างความได้เปรียบทางการเมืองต่อคู่แข่งนั้น ว่าที่ร้อยตรีสัมพันธ์ ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวถือเป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมือง ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะต้องหารือและจัดการกันเอง ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวล่วงในประเด็นทางการเมือง โดย กกต. มีหน้าที่เพียงบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติและระเบียบที่กำหนดไว้เท่านั้น

ข่าวแนะนำ