วันที่ 29 ธ.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “วิเคราะห์เทคนิคการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์” เนื้อหาระบุว่า
" หลังจากมีการยื่นสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคการเมืองต่างๆ ต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง จึงมีการเปิดเผยรายชื่อ และลำดับส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของทุกพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้มีการปกปิด และปิดลับ แม้แต่คนในพรรคก็ยังไม่ทราบว่า ตัวเองได้ลำดับที่เท่าไร ซึ่งพรรคการเมืองแต่ละพรรคปิดไว้เป็นความลับ เพื่อไม่ให้มีการวิ่งเต้น หลังจากรู้ว่าผู้สมัครคนใดอยู่ในลำดับที่เท่าไร เป็นลำดับที่น่าพอใจหรือไม่
จะขออนุญาตวิเคราะห์รายชื่อ และลำดับส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคการเมืองหลักๆดังนี้คือ
1.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเห็นได้ว่ามีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค อยู่ในลำดับที่1-2-3 และมีผู้อาวุโสอยู่ในลำดับ4 คือนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองอยู่มากไม่น้อย เพราะผู้อาวุโสคนอื่นๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ในลำดับกลางๆหรือตอนท้าย ถ้าหากว่าคนรุ่นใหม่อยู่ในลำดับต้น หรือลูกของแกนนำอยู่ในลำดับต้นแล้ว ฝ่ายพ่อก็จะอยู่ในลำดับท้ายๆ การจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ ค่อนข้างจะหลากหลาย และจะเห็นได้ชัดว่า คนที่ใกล้ชิดกับนายทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ในลำดับที่ดีหลายคน
2.พรรคประชาชน มีการจัดจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ กำหนดให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค3คนเรียงลำดับ ส่วนรายชื่อคนอื่นๆ ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะระบบภายในของพรรคประชาชนขึ้นอยู่ผู้บริหารพรรค มีคนที่ไม่คาดคิดอย่าง คุณเซีย จำปาทอง อยู่ในลำดับ4 หรือนายอสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ อดีตผู้บริหารไลน์แมน ก็อยู่ในลำดับ5 ยังมีอดีตส.ส.ที่อยู่ในข่ายอาจถูกชี้มูลจากปปช.ในกรณีแก้ไขกฎหมายมาตรา112 อยู่ในลำดับต้นๆหลายคน รวมผู้ที่ต้องคดีอื่นๆด้วย การจัดลำดับของพรรคประชาชนไม่ได้คำนึงถึงผู้มีชื่อเสียง หรือผู้มีบทบาท แต่จะใช้วิธีการผสมผสาน หรืออาจจะเป็นไปตามที่ผู้มีบารมีของพรรคต้องการก็เป็นไปได้ จึงเห็นการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคประชาชน ค่อนข้างที่จะไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรที่ตายตัว
3.พรรคภูมิใจไทย มีรายชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายไชยชนก ชิดชอบ นายวราวุธ ศิลปอาชา ต่อจากนั้นก็เป็นคนที่พรรคต้องการให้เป็นส.ส.เป็นส่วนใหญ่ สำหรับคนที่มีชื่อเสียง ที่ย้ายเข้ามาจากบ้านใหญ่ ก็มีหลายคนอยู่ในลำดับต้นๆ และบางส่วนก็อยู่ในลำดับท้ายๆ หรือตอนกลางของบัญชีรายชื่อ แต่มีคนที่อยู่ในลำดับท้ายๆ 3-4คน คาดหมายว่าถ้าพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจากพรรครัฐบาล คนเหล่านี้จะมาเป็นรัฐมนตรี
4.พรรคกล้าธรรม ซึ่งจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อันดับ1 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อันดับ2 เป็นไปตามโครงสร้างของพรรค ส่วนบุคคลอื่นๆพรรคจัดไปตามบทบาทของแต่ละคน ซึ่งเข้าใจว่า คงคาดหวังว่าจะได้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อมากนัก จึงทำให้การจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ค่อนข้างทจะสะเปะสะปะ และไม่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อเท่าที่ควร
5พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะเป็นพรรคที่มีปัญหาในการจัดลำดับปาร์ตี้พอสมควร อันดับ1 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับ2 นายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นไปตามการจัดแบบเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ มีคนรุ่นใหม่ที่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคเข้ามาอยู่ในลำดับต้นๆเป็นส่วนใหญ่ จัดให้อดีตส.ส. อดีตรัฐมนตรีไปอยู่ลำดับท้ายบัญชีหลายคน รวมถึงการตั้งคำถามว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรค ก็อยู่ในลำดับ 14 มีหลายคนคาดว่า นายจุรินทร์อาจจะอยู่ในลำดับ3 ถ้าจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์แบบในอดีตที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้คนรุ่นใหม่ และกรรมการบริหารพรรค มีโอกาสเข้ามาเป็นส.ส.ให้มากที่สุด ทำให้เห็นคนหน้าใหม่ๆอยู่ในลำดับต้นๆ ให้อดีตส.ส. อดีตรัฐมนตรีอยู่ในลำดับที่มีโอกาสเป็นส.ส.น้อยมาก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ในพรรคต่างๆ ซึ่งแต่ละพรรคมีสไตล์การจัดลำดับแตกต่างกันไป แต่ที่เห็นคล้ายคลึงกันคือ ในบัญชีลำดับท้ายของปาร์ตี้ลิสต์จะเห็นคนที่มีบทบาทและคนที่มีชื่อเสียงหลายคน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความเต็มใจของบุคคลเหล่านั้น หรือเป็นเพราะพรรคยัดเยียดให้อยู่ในท้ายบัญชี หรือต้องการให้คนเหล่านี้มีบทบาทเป็นฝ่ายบริหาร ถ้าหากพรรคมีโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของพรรคการเมืองแต่ละพรรคที่แตกต่างกัน ซึ่งแล้วแต่พรรคการเมืองนั้นๆ จะคิดอ่านหรือมีเทคนิคในการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์อย่างไร







