“ธรรมนัส” ซัดกลับ “อภิสิทธิ์” อย่าพูดเอาหล่อแต่ไม่มีผลงาน เลิกตัดสินใจแทนประชาชน ไม่วิจารณ์ตอนเป็นหัวหน้าพรรคสร้างความเดือดร้อนอะไรไว้บ้าง ติงไม่มีมารยาททางการเมือง ไม่ใช่เวลามาพูดจะจับมือกับใคร บอกถ้ามี สส. ถึง 25 คนแล้วค่อยมาคุยกัน
วันที่ 24 ธ.ค. ที่ทำการพรรคกล้าธรรม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่าจะไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ว่า ต้องบอกก่อนว่าไม่มีการแจ้งมาที่ตนว่าจะกว่าจะมีการดีเบต แต่มีการนำป้ายชื่อพรรคไปตั้ง ต้องมีการคุยเป็นเรื่องเป็นราวถ้าจะมีการจัดไปดีเบต เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ควรคุยกันก่อนให้ชัดเจน ไม่ใช่ให้สื่อมวลชนมาถามหน้างานว่าจะไปหรือไม่ไป เพราะตนกำลังจะขึ้นเครื่องไปจังหวัดภูเก็ต ตนก็ไม่ได้ติดตามข่าวคราว ในรายการดีเบตมีการคุยกันเรื่องของตนและเรื่องพรรคกล้าธรรม
ร้อยเอก ธรรมนัส เผยอีกว่า ตนเข้ามาการเมืองไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ตนจะทำอะไรก็อยู่กับประชาชนโดยเฉพาะฐานราก ตนเข้ามาการเมืองตั้งแต่ยุคไหนต้องมีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะต้องการสร้างความสามัคคี นโยบาย ตั้งแต่ตนเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ คือก้าวข้ามความขัดแย้ง
”นักการเมืองก็แปลก จะเข้าสู่เวทีการเมืองก็ชอบสร้างประเด็น สร้างความแตกแยกทางสังคม จนประชาชนสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นในสังคมการเมืองเมืองไทย ยังไม่ทันเคาะระฆัง ยังไม่ถึงวันที่จะสมัครในการลงเลือกตั้ง ก็ซัดกันนัวเนีย การที่คุณเปิดตัวทุกครั้งว่าไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคนั้นคนนี้ ท้ายที่สุดไม่รักษาคำพูดตัวเอง ต้องลาออกครั้งแล้วครั้งเล่าจากการเป็นผู้นำของแต่ละพรรค นี่เป็นบทเรียน”
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวอีกว่า หลายคนถามว่าพรรคนี้เป็นงูเห่าหรือไม่ ถ้าเป็นงูเห่าก็งูเห่าทั้งพรรค การที่ผู้นำบางพรรคประกาศไม่ร่วมกับพรรคกล้าธรรม มารยาทการเมืองเขาไม่ทำกัน ตั้งแต่ปี 2562 ตนมาดูแลประชาชนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ถือว่าเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา และการทำงานของตนก็ต้องดึงผลประโยชน์ของรัฐมาจากกลุ่มทุน ทำให้รัฐบาลต้องเจ๊ง ยุบสภาหนี แล้วยุคไหนที่ทำให้เกิดกสรเสียทหารกล้าตั้งแต่เขาพระวิหาร และยุคไหนสร้างสุสานโรงพัก คงไม่ต้องให้ตน ลูกน้อง หรือโฆษกมาพูด แต่ละเรื่องผลงานชัดเจน
“เวลาจะเลือกตั้งที คนหล่อพูดจาหล่อ พูดจาเพราะ แต่ผลงานเคยทำอะไรให้ชาติบ้างในฐานะผู้นำประเทศ การที่เราจะตัดสินใจว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่ใช่เวลา ต้องให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเลือกคุณหรือไม่ หรือเลือกพวกตนหรือไม่ หากคุณมี สส. ในกำมือ 25 คน ค่อยมาคุยกัน แม้แต่พรรคตนก็ยังไม่รู้ว่าจะได้กี่คน ต้องแข่งขันว่าจะทำอะไรให้กับประชาชน และผลงานที่ผ่านมาทำอะไรบ้างถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ตนมาเป็นรัฐมนตรีที่ดูแลที่ดิน สปก. ยึดที่หลวงเท่าไหร่แล้ว ไม่ควรปล่อยปะละเลยให้สัมปทานหรือผู้มีเงินไปใช้ที่ดิน สปก. หรือขุดทรัพย์สินใต้ดินในยุคใครทำ ตนต้องมานั่งแก้ เราอย่าทะเลาะกันเลย นักการเมืองอย่าทะเลาะกันเลย ปล่อยประชาชนตัดสินใจว่าเขาจะเลือกใครมาเป็นผู้แทน การที่อดีต สส. พรรคของพวกท่านมาอยู่กับพรรคกล้าธรรม เขาก็มาคุยกับตนว่าอยากจะทำอะไรให้กับประชาชน ไม่ใช่เพียงวาทะพูดแล้วไม่ทำ เป็นสิทธิ์ของนักการเมืองที่จะเลือกอยู่กับใคร ไม่ใช่เอาความแค้นในบ้านคุณมาถล่มบ้านคนอื่น ไม่ควรทำแบบนี้ ตนไม่ได้ชวนใครทะเลาะ”
อีกทั้ง สิ่งที่พยายามจะโจมตีว่าตนไปถ่ายรูปกับคนโน้นคนนี้ ขอโทษนะครับ ถ้าเอารูปมาวางบนโต๊ะกลุ่มชนชั้นอีลิทเกือบครึ่ง นักการเมืองตั้งแต่ระดับหัวจนถึง สส.ชั้นล่างถ่ายรูปกับเขา ข้าราชการผู้ใหญ่ทุกกระทรวงก็ถ่ายรูปกับเขา แสดงว่าประเทศไทยไม่มีคนดี เป็นแก๊งสแกมเมอร์ ไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรคืออะไร ถ้าตนถ่ายรูปกับใครวันนี้แล้วพรุ่งนี้ทำผิดก็แปลว่าตนก็ไปร่วมด้วย ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและให้เขาพิสูจน์ว่าผิดหรือไม่ผิด สิ่งที่ตนพูดไม่ต้องเตรียมแถลงข่าว ตนพูดมาจากใจ พรรคนี้ทำมากกว่าพูด
“อย่าพูดเอาหล่อแล้วทำไม่ได้ พอเป็นรัฐมนตรีก็สร้างความเสียหายให้ลูกหลานจนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่ามาเล่นการเมืองดีกว่า และตนไม่ได้ประกาศว่าไม่จับมือกับใคร หรือใครไม่จับมือกับผม ก็เป็นเรื่องของคุณ ผมไม่เล่นการเมืองแบบนั้น พรรคเราชัดเจน ในเรื่อง 112 ไม่แตะเด็ดขาด พรรคไหนแตะเราไม่เอา ต้องชัดเจน ผมจบโรงเรียนเตรียมทหาร ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ คุณอย่าตัดสินใจแทนประชาชน”
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เคยประกาศว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ มารอบนี้ก็บอกอีกว่าไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม การออกมาพูดแบบนี้จะทำให้กระแสนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ลดลงหรือไม่ ร้อยเอก ธรรมนัส ย้ำว่า จริงๆ ตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์บ้านเก่าของพี่น้องที่มาอยู่กับตน ความวิบัติของพรรคนั้นเป็นอย่างไร พอประกาศมาแล้ว พอถึงเวลา คณะกรรมการบริหารพรรคไม่เห็นกับคุณ คุณต้องลาออกไป เกิดอะไรขึ้นกับพรรค สถาบันที่อยู่กับประเทศไทยมานาน เขาสร้างกันยุคไหนของคนใต้ คุณมาทำลายแป๊บเดียวเสียหายหมด ไม่ต้องให้ผมพูดอะไรมากกว่านี้ ผมสร้างบ้านผมกี่วันบ้านใหญ่โต เพราะเขาชอบพูดน้อยทำมาก ไม่ต้องพูดเอาหล่อ ทุกคนอดีตแก้ไม่ได้แต่ต้องทำปัจจุบันและอนาคตให้ดี คนบางคนภาพภาพสวย เดี๋ยวก็รู้ว่าอดีตไม่ธรรมดาเหมือนกัน หรือปัจจุบันทำผิดสีดำ สังคมก็จะประจานคุณ
ส่วนการที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน จะไม่ขานชื่อผู้กองนั้น คนอย่างผมไม่เคยขานชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี คนอย่างผมชัดเจน ไม่ต้องดัดจริต เอาชัดเจน คนเราจะแต่งงานกับใครเขาไม่แต่งกับเราเราจะไปบังคับได้ไง ตนอยู่ในการเมืองศัตรูหมู่มารในการเมืองจบไม่สวยสักคน ผมไม่ต้องทำอะไรเวรกรรมตามสนอง ผมสวดมนต์ทุกเช้า สวดมนต์ก่อนนอนทุกวัน แผ่เมตตาไปหาพวกคุณแต่ละคน ก็เห็นจบไม่สวยสักลาย
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่พรรคกล้าทำจะไปจับมือกับพรรคประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ร้อยเอก ธรรมนัส เผยว่า เราอย่าประกาศว่าเราจะจับมือกับใครหรือไม่จับมือใคร เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้กี่เสียง ประชาชนต้องตัดสินใจ ให้ประชาชนเลือก ประกาศตัวตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคุณจะโดนเชือดวันไหน








