เดือดสนั่นพระแม่ธรณี! "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เปิดเวทีไล่เมฆเทา EP.1 แฉยับยุคการเมืองใช้เงินชี้ขาด ลั่นลงโทษอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำลายวงจรทุนเทาครอบงำรัฐ พร้อมประสานเสียงกูรูกฎหมาย-เศรษฐศาสตร์ เปิดสูตรลับปราบโกงที่ "คนโกงต้องหนาว" ย้ำชัด! ทางออกสุดท้ายอยู่ที่ปลายนิ้วประชาชน
วันที่ 22 ธ.ค.2568 เวลา 13.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เปิดฟ้าใหม่ ไล่เมฆเทา EP.1 ฟ้าทะลายโจร ตอน “ปราบโกง ต้องทำไง?” เปิดเกมนักโกงเมือง เปิดฟ้าใหม่โปร่งใสไร้คนเทา ให้ผู้สมัคร สส. 33 เขตของพรรค
โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายคนพยายามผลักดันเรื่องการเมืองสุจริต และต่อสู่กับปัญหาทุจริตคอรัปชั่นมาอย่างยาวนาน แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่พอใจในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะปัญหากลับแย่ลงด้วยซ้ำ ส่วนตัวอยู่ในการเมือง ได้เอาความซื่อสัตย์สุจริตไปต่อสู้ แต่กลับถูกมองว่า กินไม่ได้ ไม่เท่ากับแล้วโกงทำงานเร็ว กินแล้วทำงานเก่ง จนมาถึงยุคนี้ คนมองว่า เป็นเรื่องปกติเป็นมาตรฐานไปแล้วหรือไม่ ที่จะยอมรับการเมืองที่เงินชี้ขาดในเขตเลือกตั้ง เพราะสามารถพูดกันแบบโจ่งแจ้ง และไม่ต้องอายใคร จึงเชิญวิทยากรมาช่วยคิดว่า คนที่เชื่อเรื่องบ้านเมืองสุจริต จะต้องเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไร
“ไม่ใช่แค่การลงโทษอย่างเด็ดขาด เพราะข้อเท็จจริงคือ คนเหล่านี้มั่นใจว่า ไม่ถูกจับได้ หรือซื้อกระบวนการตรวจสอบ หรือหนีไปต่างประเทศได้ ดังนั้น เชื่อว่า การเสวนาในครั้งนี้ เสื้อเกราะ เป็นอาวุธสำหรับสังคมในการที่จะต่อสู้กับการครอบงำของทุนเทา เงินที่ไม่สุจริต ที่นับวันจะทำให้บ้านเมืองเสื่อมลง ย้ำว่า รณรงค์ไม่เพียงพอ แต่ต้องมีกฎหมายช่วยผลักดันอำนาจของประชาชนให้มีผลอย่างจริงจัง เพราะประชาชนเป็นต้นตอที่รู้ข้อมูลข่าวสารที่แท้จริง”หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายวิชา มหาคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และอดีตกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า "จุดตาย" ของประเทศไทยคือการเข้าถึงข้อมูลของรัฐที่ทำได้ยากลำบาก พร้อมเสนอทางออก 2 ประเด็นหลัก แก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยยึดหลัก Data Sovereignty หรือ "รัฐรู้อะไร ประชาชนต้องรู้เช่นนั้น"กฎหมาย Anti-SLAPP เพื่อคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส (Whistleblower) ไม่ให้ถูกฟ้องปิดปาก หรือใช้อำนาจมืดคุกคามจากการนำเสนอความจริง
รศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค อาจารย์ จากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้เสนอแนวทางจัดการคอร์รัปชันผ่านหลักการสากล โดยระบุว่าการปลูกฝังคุณธรรมอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมี “ระบบ” ที่ดีควบคู่กันไป จึงขอเปิดสูตรลับปราบโกง คอร์รัปชัน = อำนาจดุลพินิจ (Discretion) + การผูกขาด (Monopoly) – การตรวจสอบได้ (Accountability) และ Open State เสนอให้รัฐเปิดเผยข้อมูล Beneficial Ownership หรือรายชื่อผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงจากบริษัทคู่สัญญา เพื่อป้องกันการฮั้วประมูลและทุนเทาแทรกแซงนโยบายรัฐ
ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ผู้เชี่ยวชาญจาก สวทช. กล่าวว่า โมเดลความสำเร็จของ Traffy Fondue ที่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือของทุกคนให้เป็นเครื่องมือแจ้งปัญหาเมือง และสามารถขยายผลสู่การตรวจสอบทุจริตได้ ถ้าเราทำให้การแจ้งคอร์รัปชันง่ายเท่ากับการสั่งซื้อของออนไลน์ หรือสแกนจ่ายเงิน เราจะมีข้อมูลมหาศาลจากประชาชน (Citizen Participation) ที่ AI สามารถนำไปวิเคราะห์หาจุดผิดปกติ (Red Flags) ได้ทันที
ในช่วงท้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ตอบคำถามถึงวิธีการปราบทุนเทาทางการเมืองที่ได้ผลที่สุดด้วยข้อความสั้น ๆ ว่า “ปราบดีที่สุดคือกรุณาอย่าเลือกพรรคเทา” พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันจะนำทุกข้อเสนอจากเวทีนี้ไปร้อยเรียงเป็น “แผนปฏิบัติการล้างปัญหาประเทศ” เพื่อเปลี่ยนความอึดอัดของประชาชนให้กลายเป็นนโยบายที่สร้างประเทศไทยให้โปร่งใสและสุจริตอย่างยั่งยืน







