ศรชล. สั่งห้าม ‘ล่องเรือ-บินโดรน’ รัศมี 500 เมตร จาก ‘แท่นผลิตปิโตรเลียม’ ขู่เอาผิดทางกฎหมาย อาจผิดถึงขั้น ‘ก่อวินาศกรรม’ ทอ.ประสานทุกภาคส่วนป้องกันโดรนที่อาจเป็นภัยคุกคาม เตรียมออกมาตรการพื้นที่บินโดรนเพิ่ม บริเวณแท่นปิโตรเลียม
วันที่ 19 ธ.ค.68 พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงการวางแนวทางป้องกันโดรน ของฝ่ายกัมพูชา ที่อาจมีเจตนาในการก่อวินาศกรรมต่อแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม ในพื้นที่อ่าวไทย ว่าขณะนี้กองทัพอากาศเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแล มาตรการตอบโต้หรือต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ โดยประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อป้องกันการโจมตีจากโดรนที่คาดว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง โดยขณะนี้ทุกกองบินมีมาตรการป้องกันโดรนทั้งเชิงรุกและเชิงรับ และประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อป้องกันการบินโดรนในพื้นที่ที่มีโอกาสจะส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง
ส่วนกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ขอความร่วมมือเรือประมง ผู้ประกอบการเดินเรือ และผู้ดำเนินกิจกรมทางทะเล ร่วมเฝ้าระวังความปลอดภัยในทะเล กรณีพบเรือที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยหรือใช้อากาศยานไร้คนขับเหนือพื้นที่แท่นผลิตปิโตรเลียมนั้น คาดว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะมีมาตรการต่อเนื่องตามมาเพื่อออกพื้นที่ห้ามบินโดรนเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพื้นที่ที่มีมูลค่าสูง จะได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างแท้จริง นอกจากนี้ มาตรการการลงโทษต่าง ๆ และการดำเนินคดีต่าง ๆ หากมีการฝ่าฝืน จะมีตามมา ตามที่เห็นสมควร
ด้านพล.ร.ต.จุมพล นาคบัว โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กล่าวถึงนักท่องเที่ยวไปกลางทะเล และบินโดรนจะผิดความมั่นคงหรือไม่ ว่า นักท่องเที่ยวการใช้โดรนในเชิงท่องเที่ยวสันทนาการนอกพื้นที่หวงห้าม ยังสามารถดำเนินการได้
ส่วนการบินโดรนในพื้นที่หวงห้ามของแท่นผลิตปิโตรเลียม แม้ยังไม่ระบุเป็นเขตห้ามบิน แต่พื้นที่ดังกล่าว ได้รับการปกป้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเล ซึ่งห้ามการดำเนินการใดๆ ที่จะกระทบต่อความเสียหายบุคคลและอันตราย
โดยจะมีความผิดทั้งเรือและสิ่งที่บินเข้าไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอ่อนไหว เรื่องความปลอดภัยด้านความไวไฟเพราะหากโดรนแบตหมดและหล่นลงไปและทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินต่อแท่นผลิต และทำให้เกิดการลุกลามของไฟ รวมถึงเรือประมงและเรือท่องเที่ยวต่างๆ ที่เข้าไปจอดในรัศมี 500 เมตร จากแท่นผลิตปิโตรเลียม ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจึงขอความร่วมมืออย่าล่องเรือเข้าไปและอย่าบินโดรนในเขตห่วงห้ามเหล่านี้ ถ้าเกิดความเสียหายเกิดขึ้นอาจจะถูกดำเนินคดีตามความผิด ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องไปถึงการก่อวินาศกรรม ที่มีบทลงโทษที่รุนแรง ทั้งส่วนเรือที่นำเข้าไปและผู้ที่นำโดรนเข้าไป








