การเมืองทั่วไป

"กัญจนา" แจงเหตุ "ท็อป" ลาชาติไทยพัฒนา ยันไม่ทิ้งพรรคที่พ่อสร้าง

แชร์ข่าว

วันที่ 19 ธ.ค.68 น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์เฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa ระบุข้อความว่า ปกติ..เฟสของดิฉันจะไม่พูดเรื่องการเมือง… แต่ครั้งนี้ขอใช้โพสต์นี้ ช่วยน้องชี้แจงเหตุผลที่เขาต้องลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนาไปอยู่พรรคภูมิใจไทย… (เขาไม่ได้ขอให้ดิฉันชี้แจง แต่ดิฉันต้องการชี้แจงเองค่ะ)…

โพสต์นี้จะยาวหน่อยนะคะ แต่มันกลั่นมาจากใจ… บนพื้นฐานของความจริงที่หลายคนอาจไม่ทราบ…

การเขียนของดิฉัน จะลำดับเรื่องราวเป็นข้อๆนะคะ…

1. การทำงานการเมืองในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า การเป็นพรรคขนาดเล็ก..ทำงานลำบากมาก…

2. ทราบไหมคะว่า ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2566 ..ท็อปลงในแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งของพรรคชาติไทยพัฒนา และเกือบสอบตก…

ท็อปได้เป็นสส.ปัดเศษ..

3. พรรคชาติไทยพัฒนาแม้จะได้สส.เขตทั้ง 5 เขต (ซึ่งก็ต้องขอบคุณคุณคนสุพรรณ ที่ช่วยกรุณาเลือกค่ะ)

แต่แม้แต่ช่วงที่พ่อบรรหารยังอยู่..คะแนนพรรคเราก็ไม่ได้อันดับหนึ่ง…

ทั้งๆที่พ่อ และพรรค ทำงานเพื่อคนสุพรรณมาเกือบทั้งชีวิตของพ่อ…

ยิ่งการเลือกตั้งครั้งล่าสุด.. คะแนนพรรคชาติไทยพัฒนาได้เป็นที่ 3 ด้วยซํ้า แพ้คะแนนพรรคที่ไม่เคยทำอะไรให้กับจังหวัดสุพรรณเลย…

4. ก็เพราะท็อปและสส.ของพรรคยังต้องการทำงานให้คนสุพรรณ และประเทศชาติโดยรวมอยู่ จึงต้องหาพื้นที่ที่จะสามารถยืนอยู่บนถนนการเมืองต่อไปได้…

5. ซึ่งเมื่อตัดสินใจว่า จะต้องย้ายมาอยู่พรรคใหญ่ พวกเขาต้องเลือกพรรคที่ยึดมั่นในชาติ ศาสน์ กษัตริย์…

จึงเลือกมาอยู่พรรคภูมิใจไทย…

6. การลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนามาอยู่พรรคภูมิใจไทย..ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทิ้งพรรคที่พ่อทำมา แต่หมายความตามที่ดิฉันกล่าวแล้วข้างต้นว่า … ถ้ายังอยู่ที่เดิมคงไม่มีพื้นที่ที่จะทำงานการเมืองต่อได้…

7. เหมือนชีวิตของพ่อบรรหาร …แม้พ่อรักสุพรรณแค่ไหน

พ่อก็ยังต้องจากสุพรรณมาเพื่อมาทำมาหากินที่กรุงเทพฯ จนมีฐานะมั่นคง แล้วจึงกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน…

ถ้าใช้ความคิดว่า..เพราะรักสุพรรณ ต้องอยู่แต่สุพรรณตลอด

พ่อคงไม่มีโอกาสเติบโต จนได้ทำงานใหญ่ให้บ้านเกิด และประเทศชาติได้..

8. ฉันใดก็ฉันนั้นค่ะ… สำหรับท็อปและชาวพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ต้องออกมาสู่พรรคใหญ่…

9. ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา…ในอนาคตดิฉันก็จะมารับรักษาการเป็นหัวหน้าพรรค แต่จะไม่มีกิจกรรมใดทางการเมือง แค่เพียงรักษาพรรคไว้..

10. ดิฉันก็ชี้แจงเท่าที่ทำได้…

ยอมรับว่ารุ่นลูก เราไม่เก่งเท่าพ่อ แต่เราสองคนพี่น้องก็ได้พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว…

ตัวดิฉันเองนั้น ไม่ได้ชื่นชอบวิถีการเมืองเลย เพราะรู้ดีว่าไม่เหมาะกับนิสัยตัวเอง..

ช่วงที่พ่ออยู่ก็แค่ช่วยพ่อ..

สำหรับดิฉัน…การเมืองมีประโยชน์เพียงช่วยให้ดิฉันได้ทำงานช่วยชีวิตสัตว์และคนตัวเล็กตัวน้อยได้มีพลังขึ้น เพราะถ้าเราไม่มีตรงนี้ เวลาไปประสานทางการ …ข้าราชการก็อาจไม่ค่อยฟังเรา ไม่ช่วยงานเรา…

แม้สิ่งที่เราขอให้เขาทำ ก็คืองานในความรับผิดชอบของเขาทั้งสิ้น

ไม่เคยมีผลประโยชน์ส่วนตัวของเราเองเลย…

ที่ดิฉันชี้แจงมา.. ท่านใดเข้าใจ ดิฉันก็ขอบพระคุณ

แต่ดิฉันก็ไม่สามารถก้าวล่วงวิจารณญาณของแต่ละท่านได้ค่ะ..

แค่รู้สึกว่าอยากจะชี้แจงเท่านั้นค่ะ…

และไม่อยากได้ยินใครมาพูดอีกว่า..รุ่นลูก ทิ้งพรรคที่พ่อสร้างมา…

ถ้าท็อปยุติบทบาททางการเมืองนั่นสิ ถึงจะเป็นการทิ้งงานที่พ่อทำมา..ไม่สานต่อ…

ขอบพระคุณสำหรับท่านที่อ่านจนจบนะคะ…