การเมืองทั่วไป

กกต. ชี้ ‘คนละครึ่งเฟส 2’ เสี่ยงชะงัก ยึดเกณฑ์ได้เปรียบ–เสียเปรียบ ย้ำไม่เลื่อนเลือกตั้ง

แชร์ข่าว

โครงการคนละครึ่งเฟส 2 ส่อชะงัก กกต.แจ้งยึดเกณฑ์ความได้เปรียบเสียเปรียบ มั่นใจพื้นที่สู้รบบริหารจัดการได้ไม่ต้องเลื่อนวันเลือกตั้ง ส่วนประชามติต้องมีเวลาทำความเข้าใจประชาชนไม่น้อยกว่า 30 วันจนถึงวันเลือกตั้ง

วันนี้( 15 ธ.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการหารือของ กกต.กับผู้แทนรัฐบาลช่วงกลางวันที่ผ่านมาในเรื่องของการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทาง กกต. แจ้งกับทางตัวแทนรัฐบาล ว่า หากจะจัดให้มีการทำประชามติในวันเดียวกับการเลือกตั้ง สส. จำเป็นจะต้องมีเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน จนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อให้กกต.นำประเด็นที่จะทำประชามติไปเผยแพร่ทำความเข้าใจกับประชาชน

ส่วนการขออนุญาตใช้งบประมาณนั้นในส่วนของโครงการคนละครึ่งเฟส 2 กกต.ยืนยันว่า ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในเรื่องว่า การดำเนินโครงการนั้นก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันเลือกตั้งหรือไม่ แต่หากเป็นการโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ หรือการปูนบำเหน็จให้กับทหารชายแดนเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการและได้ดำเนินการมาก่อนแล้ว ก็สามารถทำต่อไปได้

ส่วนเรื่องการจัดการเลือกตั้งในสถานการณ์ที่มีการสู้รบขณะนี้ กกต.ยืนยันว่า จะสามารถจัดการเลือกตั้งตามแผนที่วางไว้ได้ โดยขณะนี้ทางสำนักงานดำเนินการสำรวจว่าในจังหวัดที่มีการสู้รบนั้นกระทบต่อการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดบ้าง

และเชื่อว่าสามารถใช้วิธีบริหารจัดการพาคนไปหาหน่วยเลือกตั้งได้ โดยไม่จำเป็นต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป เพราะการเลื่อนการเลือกตั้งทั้งประเทศ น่าจะไม่เป็นผลดีทั้งกับ กกต. และรัฐบาล โดย กกต. อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอื้อต่อรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลเองก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าใช้ กกต. เป็นเครื่องมือ สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเบื้องต้นอยู่ที่ 53,052,847 คน แบ่งเป็นชาย 25,454,342 คน เป็นหญิง 27,598,505 คน

ข่าวแนะนำ

แชร์ข่าว