‘โรม’ฉะพวกโยนหินถามทางหวังสงครามยืดเยื้อมีธงการเมือง‘เลื่อนเลือกตั้ง’หรือไม่ ดักคอพรรคการเมืองอย่าเอาความขัดแย้ง‘ไทย-กัมพูชา’มาโหนเรตติ้ง ชี้ต้องประเมินสถานการณ์เรียลไทม์ยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก ย้ำต้องทลายทุนเทากระเป๋าเงิน‘ฮุน เซน’หยุดเครื่องจักรสงคราม แต่วันนี้รัฐบาลไม่ทำอะไรแล้ว
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา จะกระทบต่อการจัดเลือกตั้งที่อาจต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ ว่า ความคิดเห็นส่วนตัวตนมองว่าครั้งนี้สถานการณ์มีความรุนแรงมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา และมีความสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ตนก็ต้องแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียทั้งหมด อย่างไรก็ตามตนยังมองว่าหนึ่งสถานการณ์ในการเลือกตั้งมันยังอีกหลายหรือวันยาวนานเป็นเดือน สองคือเราต้องไม่ทำให้เรื่องความขัดแย้งตามแนวชายแดนมันกลายเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายใครก็ตาม มันต้องคิดบนพื้นฐานของผลประโยชน์ประเทศชาติ
“ผมคิดว่าต้องประเมินสถานการณ์อย่างเรียลไทม์ โดยดูจากความเป็นจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องไม่ทำให้เรื่องนี้มันกลายเป็นผลประโยชน์ของพรรคการเมือง แต่มันต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง ดังนั้นไอ้ประเภทโยนหินถามทางต่าง ๆ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าไอ้การคิดแบบโยนหินถามทางนั้น คิดจากบนพื้นฐานอะไร คือคิดว่าเกือบ 2 เดือนข้างหน้า มันจะมีการสู้รบกันยาวๆ ยาวยืดๆ ต่อไปแบบนั้น หรือว่ามันเป็นการคิดบนพื้นฐานว่าอยากจะเห็นธงทางการเมืองแบบนั้นเลยพยายามโยนหินถามทางหรือเปล่า อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องไม่ทำให้มันเป็นเรื่องทางการเมืองที่จะนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใดก็ตาม ” นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายพยายามปลุกกระแสเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป จะทำความเข้าใจกรณีนี้กับสังคมอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จริงๆ ตนคิดว่าสังคมส่วนใหญ่เข้าใจทุกอย่าง แต่ว่าอย่างที่ตนได้บอกไปว่าการแก้ปัญหาในเรื่องของชายแดน การแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชามันต้องไม่ตั้งอยู่บนข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง มันต้องไม่ตั้งอยู่บนการใช้อารมณ์ความรู้สึก มันต้องตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ และตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ถ้าเกิดเราใช้อารมณ์ความรู้สึก แต่เราละเลยข้อเท็จจริงๆ ไป สุดท้ายมันอาจจะไม่ได้เป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้นตนคิดว่าการที่จะแก้ปัญหาตามแนวชายแดนต้องตั้งอยู่บนเรื่องผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก หมายความว่าตั้งแต่ในเรื่องของการเตรียมการ การดำเนินการยุทธวิธีต่างๆ เพื่อที่จะทำอย่างไรให้รักษาชีวิตทหารของเราให้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันเราก็ปกป้องบูรณภาพทางดินแดน ปกป้องประชาชน อันนี้เราต้องทำ มันเป็นการป้องกันประเทศชาติ แต่ขณะเดียวกันขาที่จะทลายในเรื่องของทุนเทา เป็นสิ่งที่เราสามารถทำให้กระเป๋าเงินของฮุน เซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา และชนชั้นนำของกัมพูชาสะเทือน เพื่อที่เขาจะไม่สามารถหล่อเลี้ยงเครื่องจักรสงครามต่อไปได้เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ตนคิดว่ามันเงียบหายไปแล้ว รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอะไรแล้ว และเป็นสิ่งที่ตนคิดว่าสังคมไทยต้องกลับมาตั้งคำถามกันอีกครั้งว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราต้องไม่ลืมว่าแม้กระทั่งตัวที่ปรึกษาของฮุน เซน ทุกวันนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ มันเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องเหล่านั้น ตนคิดว่าถ้าเราไม่มีความชัดเจนในเรื่องทางยุทธศาสตร์ ตนเป็นห่วงจริงๆ ว่าเราจะไม่ได้อยู่ในจุดที่มันเป็นสถานการณ์ที่ได้เปรียบ
“ไอ้ที่เราบอกว่าจะเอาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มันก็ไม่ได้เป็นการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่ยั่งยืนหรือที่แท้จริง เพราะว่าถึงที่สุดในการสู้รบมันมีหลายมิติ ไม่ได้มีแค่มิติใดมิติหนึ่งที่เราจะต้องชนะ แต่มันมีทุกๆ มิติที่เราจะต้องดำเนินการให้ได้รับผลที่ดี สำหรับประเทศ” นายรังสิมันต์กล่าว
ต่อข้อถามว่าประเมินว่าจริง ๆ แล้วฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยอยากเลือกตั้งหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคงไม่คิดแทน เพราะว่ายังไม่มีข้อมูลอะไรที่จะมาคิดหรือพิจารณาได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่แน่นอนตนคิดว่าประชาชนก็คงเป็นห่วงว่ามันจะมีความพยายามในการเอาเรื่องชายแดน เรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาไปเหมือนกับเป็นผลบวกในเรื่องคะแนนนิยมของพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็แล้วแต่ ซึ่งตนขอย้ำว่าเรื่องนี้มันต้องตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของชาติ ต้องไม่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของพรรคการเมือง








