เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก
แสดงความเห็นกรณีพรรคประชาชนจัดกิจกรรมปิกนิกขอโทษประชาชน โดยระบุข้อความว่า
"ปิกนิก “ขอโทษประชาชน“ (แต่เที่ยวหน้า ขอเป็นรัฐบาลพรรคเดี่ยว!)
พรรคประชาชนจัดปิกนิกขอโทษประชาชนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
ยอมรับแล้วว่าเสี่ยงกับพรรคภูมิใจไทย
มั่นใจครั้งหน้าเป็นรัฐบาลพรรคเดียวจะไม่ถูกหักหลังอีก
จัดอีเวนต์ขอโทษกับเรื่องใหญ่ของประเทศแบบนี้ มันไม่ดูง่ายไปหน่อยหรือ?
แล้วยังขอเป็น “รัฐบาลพรรคเดี่ยว” อีก ขอมากไปไหม?
ผมว่าปิกนิกครั้งนี้หัวหน้าพรรคประชาชนต้องขอโทษทหารด้วย
ตั้งแต่ ธนาธร พิธา มาถึงหัวหน้าเท้ง คนปัจจุบัน ยังเคยปราศรัยเมื่อสองปีก่อนว่า
”ไม่มีการรุกรานของประเทศเพื่อนบ้าน หากมีการรบกันจริงก็ไม่เชื่อว่าทหารไทยจะชนะด้วย ต้องลดกำลังกองทัพ บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพเสียด้วยซ้ำ“
ดูคลิปที่คอมเมนต์
อันนี้ก็พูดด้วยความอ่อนหัด อันเป็นความคิดเห็นที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งของคนที่จะมาบริหารประเทศ
สงคราม ไทย-เขมร คงได้สอนให้พรรคประชาชนเห็นแล้วว่า
”ทำไมไทยต้องมีกองทัพ มีทหารไว้เพื่อปกป้องดินแดน อธิปไตย ไม่ให้ใครรุกราน“
ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่หัวหน้าพรรคประชาชนต้องเรียนรู้ก่อนที่จะไปบริหารประเทศ
ความคิดความเชื่อของพรรคที่ด้อยประสบการณ์และดื้อรั้น แต่คาดหวังจะให้ได้รับเลือกเป็นพรรคเดียวไปจัดตั้งรัฐบาล
นับว่าประชาชนต้องระวังให้มาก จากศึกสงคราม ไทย-กัมพูชา ครั้งนี้
ทำให้เราต้องตระหนักว่า งานการเมืองไม่ใช่งานบริษัท ผู้นำประเทศไม่สามารถทำผิดพลาดกับนโยบายใหญ่
แล้วมาเรียนรู้พัฒนา เพราะความเสียหายไม่ใช่เฉพาะทรัพย์สินเงินทอง
การเอาคนไม่มีประสบการณ์มาบริหารบริษัทเจ๊งไป
ยังมีคนมารับเซ้งต่อ หาคนมีประสบการณ์ เก่ง รอบรู้มาบริหารใหม่ กลับพลิกฟื้นได้กำไร
แต่หากเอามือสมัครเล่น ไม่มีประสบการณ์ มาเรียนรู้ฝึกงานบริหารประเทศเจ๊งไป
มันไม่มีใครมารับเซ้งต่อนะครับ
ประเทศไทยจึงไม่ใช่สถานที่ฝึกงาน ที่ทำพลาดแล้วแค่มาจัดปิกนิกขอโทษ
แต่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก“ ต่างหาก"
#ชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ #พรรคประชาชน #ปิกนิกขอโทษ #ลาออก #รัฐบาลพรรคเดี่ยว #การเมืองไทย #สงครามไทยเขมร #ประเทศไทยไม่ใช่สถานที่ฝึกงาน








