เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. 68 ท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ระบุในเวลา 22.00 น. ไทยและกัมพูชา จะเริ่มกระบวนการหยุดยิงว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ และขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่ทางกองทัพแถลงวันละ 2 ครั้ง ส่วนแหล่งข่าวจากที่อื่นไม่ควรจะนำมาเป็นข้ออ้างใดๆ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ได้คุยกับนายกฯ มาเลเซียบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้พูดคุยกันมาตลอดในช่วงที่มีเรื่องมีราว แต่ไม่มีครั้งไหนที่ท่านบอกว่าจะต้องทำข้อตกลงหยุดการดำเนินการใดๆ
เมื่อถามว่า กองทัพได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า วันนี้อยู่กับเสนาธิการทหารบกตลอดบ่าย ซึ่งดำเนินการตามแผนที่วางไว้
เมื่อถามว่า ฝ่ายกัมพูชาตอบรับข้อเสนอของนายกฯ มาเลเซีย แต่หากฝ่ายไทยไม่แสดงท่าที จะเป็นการไม่เจรจาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “การตอบรับว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีการหารือพูดคุยและต้องมีท่าทีที่จริงใจ ชัดเจนว่าต้องการหยุดการปะทะ หยุดการทำร้ายซึ่งกันและกัน ขอย้ำอีกครั้งว่า ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายที่ถูกรุกราน คุกคามอธิปไตย และที่เราตอบโต้ไปนั้นเพื่อป้องกันอธิปไตย ป้องกันประชาชน และทำให้เขาเห็นว่าอย่าได้เข้ามาทำร้ายประเทศไทย และในขณะที่เรากำลังแสดงท่าทีว่า เรากำลังปกป้องอธิปไตยของเรา คงไม่มีใครสามารถมาบอกเราได้ว่าเวลา 22.00 น.ให้ต่างคนต่างถอยและหยุดยิงกัน ถ้าคิดด้วยสามัญสำนึกที่ปกติมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่ากัมพูชาจะเอาคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ลงพื้นที่ในขณะที่ยังไม่มีการหยุดยิง นายกฯ กล่าวว่า ถ้าจะหยุดยิงกันจริงๆ กัมพูชาต้องยื่นเสนอมาที่ประเทศไทยไม่ใช่ให้ผู้นำประเทศอื่นมาพูด เพราะเรามีเรื่องกันอยู่ ถ้าจะดำเนินการใดๆ ที่อยากหยุดข้อพิพาทกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสนอมา
“อย่างเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่บอกว่าจะหยุดยิงแล้วเป็นอย่างไร ก็มีการยิงตั้งแต่เช้า เป้าหมายไม่ใช่ทางทหาร เป้าหมายมาโดนประชาชนของไทย โดนชุมชนทำให้เกิดความเสียหาย การกระทำมันชัดเจน การจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ต้องไม่ทำด้วย ถ้าหยุดยิงก็ต้องหยุดยิงให้เห็น และต้องถอนความพร้อมในเรื่องการยิง ไม่ใช่หยุดยิงแค่นี้แต่ปืนยังเล็งมาที่ประเทศไทยอยู่ พร้อมยิงก็ไม่ได้ ถ้าจะหยุดยิง ก็ต้องหยุดทั้งหมด หยุดความพร้อมทุกอย่างและถอยกลับไป ซึ่งคนที่ประเมินคือประเทศไทยว่าแบบนี้เริ่มคุยกันได้ ตรงนี้ถึงจะเป็นวิธีการถูกต้อง ไม่ใช่ไปใช้การพูดคุยกันผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะนี่เป็นเรื่องของประเทศ ไม่ใช่ไปอ่านเจอในโชเชียลมีเดียแล้วบอกว่าต้องหยุดยิงอย่างนี้คงไม่ใช่ ชัดเจนนะ” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่กัมพูชาไม่ยอมเปิดด่านให้คนไทยกลับประเทศ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น คนไทยมีสิทธิ์ที่จะกลับบ้าน และคนไทยสามารถเดินเข้าบ้านตัวเองได้ตลอดเวลา
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะนำไปเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการนำไปพูดคุยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนหวังว่า น่าจะไม่ถึงจุดที่จะเอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน เพราะเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่า หากมีการทำร้ายร่างกายคนไทยจะมีการเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรามีแผนเผชิญเหตุทุกเหตุอยู่แล้ว
ทั้งนี้นายกฯ ได้ให้สื่อมวลชนถามพล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก โดยพล.อ.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า ลองไปถาม คุณพ่อ คุณแม่ ภรรยาและลูก ของกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 15 นาย ตั้งแต่จ่าสิบเอกศตวรรษ สุจริต ไปจนถึง พลทหาร กฤตฎิกร สร้อยระย้าว่าพวกเขาคิดอย่างไร








