“เทพไท” แขวะ “ยุบสภา” เทศกาลปล่อยผี “ส.ส.ย้ายพรรค” ตลาดนัดการเมืองคึกคัก เตือนประชาชนจับตาซื้อเสียง
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
ยุบสภา เทศกาลปล่อยผี ส.ส.ย้ายพรรค
หลังจากมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาประกาศแล้ว และมีผลปฏิบัติในทันที จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงเวลา 45-60 วัน ทำให้เห็นบรรยากาศทางการเมืองของนักเลือกตั้ง นักการเมือง อดีตส.ส. มีความเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวย้ายพรรค เปลี่ยนพรรคและหาพรรคใหม่สังกัด เป็นการปลดปล่อยนักการเมือง เปรียบเสมือนผึ้งแตกรัง หรือสัตว์บางจำพวกที่ได้รับการปลดปล่อยจากกรง หรือถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดกว่านั้น ก็เหมือนกับการปล่อยเปรตมาหาเศษบุญ
จึงทำให้นักการเมืองประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า สังกัดพรรคการเมืองใด มีบางคนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ บางคนก็ลาออกจากพรรคเก่า ไปอำลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค และไปประกาศตัวชัดเจนว่า ได้สังกัดพรรคการเมืองใหม่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ยังสังกัดพรรคการเมืองเดิมอยู่ และยังไม่มีการยุบสภา จึงทำให้นักการเมืองที่ยังสังกัดพรรคอยู่ ยังเป็นส.ส.อยู่ไม่กล้าผลีผลามจะไปเปิดตัว หรือใส่เสื้อพรรคการเมืองที่จะไปย้ายไปสังกัดใหม่ ก็ต้องทำตัวเป็นอีแอบ
แต่เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว ก็เป็นอิสระสามารถจะโยกย้าย หรือไปสังกัดพรรคใหม่ หรือไปใส่เสื้อพรรคการเมืองใดก็ได้ จึงทำให้เห็นภาพนักการเมืองไปยื่นใบลาออกจากพรรคการเมืองเก่า ซึ่งอาจจะไม่ได้ยื่นที่พรรค เพราะด้วยความเหนียมอาย ด้วยความไม่กล้าจะไปสู้หน้ากับพรรคเก่า ส่วนใหญ่จะไปยื่นใบลาออกต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)
หลังจากนี้จะเห็นนักการเมืองเปลี่ยนพรรคสลับไปสลับมาอีกหลายพรรค อีกหลายคน บางคนยังเร่หาพรรคที่สังกัดจนเป็นที่พอใจ หรือได้รับค่าตัวได้รับการสนับสนุน จนเป็นที่พอใจ กระแสการย้ายพรรคจะหยุดนิ่ง ก็ต่อเมื่อได้ยื่นใบสมัครลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งถอนตัวไม่ได้เปลี่ยนพรรคไปได้ แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้ยื่นใบสมัครเป็นส.ส.หรือลงสมัครเป็นส.ส. ก็ยังเปลี่ยนพรรคได้ตลอดเวลา
เราจะเห็นนักการเมืองขายตัวอยู่อีกจำนวนมาก ตลาดนัดส.ส.ได้เริ่มเปิดมาตั้งแต่รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศจะยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม 2569แล้ว แต่เมื่อยุบสภาเร็วกว่ากำหนด ก็อาจจะเกิดความฉุกละหุกขึ้นมาในหมู่ส.ส. บางคน แต่ส่วนใหญ่ได้เตรียมพร้อมแล้วทำใจแล้ว ทำให้เห็นราคาค่างวดของส.ส.ที่มีการปั่นหุ้นกัน จาก เกรด A ราคา 80 ล้านบาท เกรด B ราคา 50 ล้านบาท เกรด C ราคา 30 ล้านบาท ให้เห็นอยู่
เพราะฉะนั้นประชาชนต้องจับตาดูให้ดีว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีนักการเมืองคนใดซื้อเสียงบ้าง ถ้าหากซื้อเสียงให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า คือเงินบาป เงินสกปรก เงินสีเทา รับเงินได้แต่ไม่ต้องเลือก เพราะถ้าเลือกนักการเมืองเหล่านี้เข้าไปในสภา ก็จะไปถอนทุนคืน จะไปสนับสนุนรัฐบาลบริหารประเทศ เพื่อถอนทุนคืน ทุจริตคอรัปชั่น ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย
จึงฝากไว้สำหรับประชาชน ให้จับตาการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนักการเมืองในช่วงการหาเสียงการเลือกตั้งครั้งนี้ให้ดี







