วันที่ 9 ธันวาคม 2568 นางสาวภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน ได้ออกมาเรียกร้องให้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเลื่อนการสอบในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ทันที โดยระบุว่าอย่าบังคับให้เด็กสอบบนซากปรักหักพัง เพราะความเป็นธรรมทางการศึกษาต้องจับต้องได้ ไม่ใช่เพียงคำสวยหรู แม้ระดับน้ำจะลดลงแต่ชีวิตของผู้คนยังไม่กลับคืนมา ในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังเครียดกับภาระการล้างบ้าน หนี้สิน และการซ่อมแซมยานพาหนะ ยังมีเด็กนักเรียนรุ่นปี 69 (เด็ก 69) อีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องแบกรับความทุกข์ไว้เงียบๆ โดยกำลังถูกระบบการศึกษาบีบคั้นให้เข้าห้องสอบทั้งที่ขายังยืนอยู่บนกองโคลน
นางสาวภคมน เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชจนถึงสงขลา ทั้งในตัวเมืองหาดใหญ่และพื้นที่รอบนอกอย่างสทิงพระและระโนด ได้เห็นความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ แม้จะมีการประกาศเลื่อนสอบแล้วใน 3 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา และนราธิวาส แต่ข้อเท็จจริงคือพื้นที่น้ำท่วมยังมีอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ เช่น สตูล พัทลุง และปัตตานี หรือกรณีเด็กบางคนที่บ้านอยู่จังหวัดตรังแต่ต้องเดินทางมาเรียนที่หาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประสบภัยเช่นกัน ดังนั้นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารควรจะกว้างไกลและรองรับให้ครอบคลุม เพราะแม้สถานการณ์เพิ่งคลี่คลาย แต่การเตรียมตัวสำหรับการสอบที่จะมาถึงในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ นักเรียนยังไม่มีความพร้อม จึงขอให้ประกาศเลื่อนการสอบในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมในภาคใต้ทั้งหมดออกไปก่อนโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่ต้องยื่นเอกสาร
"ถามจริงๆ เถอะค่ะ จะให้พวกเขาเอาสมาธิที่ไหนไปสอบ หนังสือเรียนลอยไปกับน้ำหมดแล้ว อุปกรณ์การเรียนพังเสียหาย คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตที่ใช้ติวก็จมโคลน โต๊ะอ่านหนังสือไม่มี ไฟฟ้าเพิ่งมา อินเทอร์เน็ตยังติดๆ ดับๆ ที่สำคัญที่สุดคือสภาพจิตใจ เด็กหลายคนเพิ่งผ่านนาทีชีวิต เพิ่งเห็นบ้านตัวเองพังต่อหน้าต่อตา สภาพจิตใจบอบช้ำ หรือ Trauma ยังไม่ได้รับการเยียวยา แค่จะตั้งสติให้ผ่านแต่ละวันยังยาก การดันทุรังจัดสอบ TGAT/TPAT2-5 ตามกำหนดเดิมในพื้นที่เหล่านี้ มันไม่ใช่การวัดความรู้หรือความพร้อม แต่มันคือการวัดแต้มบุญ ว่าใครโชคดีบ้านไม่ท่วม หรือใครมีเงินพอจะหนีไปติวที่อื่น นี่คือความอยุติธรรมที่รัฐและ ทปอ. กำลังหยิบยื่นให้เด็กใต้" รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าว
ทั้งนี้ ในฐานะผู้แทนราษฎรที่อยู่หน้างาน นางสาวภคมนได้เสนอข้อเรียกร้องเร่งด่วน 3 ข้อ ถึง ทปอ. และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้บรรจุเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนในแผนฟื้นฟูมนุษย์ทันที ได้แก่ 1. เลื่อนสอบโซนภัยพิบัติทันที สำหรับสนามสอบในจังหวัดที่ประกาศเขตภัยพิบัติ ต้องเลื่อนวันสอบออกไปเพื่อให้เด็กได้มีเวลาหายใจ มีเวลาซ่อมแซมบ้าน และฟื้นฟูสภาพจิตใจให้มีความพร้อมเท่าเทียมกับเด็กพื้นที่อื่นๆ 2. ประกาศให้ชัดและเร็ว เพราะความไม่ชัดเจนคือความทรมานที่สร้างความเครียดให้ทั้งเด็ก ผู้ปกครอง และครู โดยหน่วยงานต้องเคาะมติออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่ควรทำงานเช้าชามเย็นชามบนความทุกข์ของเด็ก
และ 3. อุปกรณ์การเรียนต้องฟรี รัฐต้องสนับสนุนหนังสือเรียนและอุปกรณ์เครื่องเขียนชุดใหม่ให้เด็กที่ประสบภัยฟรีทันที เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องควักเนื้อในวันที่ไม่มีจะกิน โดยนางสาวภคมนทิ้งท้ายว่า การศึกษาไทยพูดคำว่าลดความเหลื่อมล้ำมาเป็นล้านครั้ง ครั้งนี้คือบทพิสูจน์ว่าทำจริงหรือเป็นแค่การสร้างวาทกรรม จึงขอให้เลื่อนการสอบออกไปเพื่อมอบโอกาสและคืนเวลาให้เด็กได้ตั้งหลัก ไม่เหยียบย่ำซ้ำเติมด้วยการยัดเยียดการสอบ โดยรัฐควรรับผิดชอบอนาคตของพวกเขาที่ได้รับผลกระทบจากการประเมินสถานการณ์ผิดพลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้