รัฐบาลคุมเข้ม PM 2.5 รมช.มท. ศักดิ์ดา เรียกประชุมบูรณาการเข้มทุกหน่วย ลดเผา–คุมควันดำ–เตือนภัยแบบเรียลไทม์
วันนี้ (8 ธ.ค. 68) เวลา 11.00 น. ที่ ห้องประชุม 1 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคกลาง โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม พร้อมทั้งผู้ว่าราชการ 76 จังหวัด ร่วมประชุมผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในช่วงระยะนี้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เริ่มส่งผลกระทบในพื้นที่ประเทศไทย โดยเฉพาะระยะพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมาณฑล ที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบกับข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 กรุงเทพมหานครและปริมณณลอาจมีฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่เพิ่มขึ้น รองลงไปจะเป็นภาคอีสาน และภาคเหนือที่อาจมีการเผาจากการเก็บเกี่ยว ส่วนหนึ่งด้วยสภาวะลานีญาที่คาดว่าจะคงอยู่ถึงเดือนธันวาคม 2568 จึงมีโอกาสเปลี่ยนสภาวะความเป็นกลาง (เกิดฝนน้อยลง) ในช่วงต้นปี 2569 เป็นต้นไป รัฐบาลได้ห่วงใยสุขภาพและการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขปัญหา PM 2.5 และวันนี้ได้ติดตามความคืบหน้า เพื่อวางแผนการป้องกันแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการเชิงรุกในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1) ด้านการบูรณาการเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ระยะสั้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางกรุงเทพฯ ได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วน อาทิ “Work from home - Work from anywhere ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน ร่วมปฏิบัติ 370 แห่ง ค่าเฉลี่ยปริมาณรถที่สัญจรบนถนน ลดลง 8.5% ทำให้ค่าฝุ่นลดลง เช่น เขตบางรัก รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นการจัดการรถยนต์ควันดำ จากเดิมห้ามเกิน 30 % เป็นค่าควันดำห้ามเกิน 20 % 2) ด้านควบคุมและลดการเผาในพื้นที่เกษตร ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้นำมาตรการตัดสิทธิการได้รับความช่วยเหลือชดเชยจากภาครัฐในเขตพื้นที่ สปก. ถ้าทำผิด 3 ครั้ง จะเข้าสู่กระบวนการสั่งตัดสิทธิ พื้นที่นิคมสหกรณ์ มีมาตรการชะลอหนังสือสั่งทำประโยชน์ เป็นต้น ด้านสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้กำหนดอ้อยเผาไม่เกิน 20 % ต่อวัน และทั้งฤดูกาลผลิต ปี 2568/2569 ต้องไม่เกิน 10 % ทำให้ลดอัตราการเผาและฝุ่นควันในพื้นที่ได้มากขึ้น 3) ด้านการควบคุมและลดการเผาในพื้นที่ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช รายงานยังไม่มีความรุนแรง และจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่ 22 พ.ย. – 7 ธ.ค. 68) มีจำนวน 327 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 2 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 11 จุด นอกพื้นที่ป่า จำนวน 314 จุด และได้ร่วมกับจังหวัด อำเภอ หมู่บ้าน รณรงค์ “เคาะประตูบ้าน” ทั้งพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก รวมถึงการตรวจหาไฟด้วยดาวเทียม ระบบ VIIRS ในตรวจจับความร้อน ร่วมกับโปรแกรมภูมิสารสนเทศเพื่อวางแผนป้องกันและควบคุมไฟป่า ทำให้ทราบจุด Hotspot แบบเรียลไทม์มากขึ้น และเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปดับไฟได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ 4) ด้านการควบคุมและลดมลพิษในพื้นที่เมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ตรวจอู่รถ ขสมก. ตรวจจับรถควันดำบนท้องถนน ส่วนกรมการขนส่งทางบกได้เพิ่มความเข้มข้นการตรวจสภาพรถที่มีปัญหาควันดำก่อนเสียภาษี และจัดตั้งจุดตรวจโดยสารประจำทาง และตรวจรถบรรทุกและรถโดยสารเข้าเขตเมืองชั้นใน โดยให้บริการตรวจสภาพรถในจุดต่าง ๆ ทางด้านกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกแผนตรวจโรงงานเชิงรุกในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีแผนการตรวจ 1,066 โรงงาน ผลดำเนินการ 228 โรงงาน และในภาคเหนือ แผนการตรวจ 899 โรงงาน ผลดำเนินการ 14 โรงงาน ซึ่งทุกแห่งที่ตรวจยังไม่พบผู้ประกอบการรายใดมีผลเกินค่าตามมาตรฐาน และกรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง อาทิ อาคารสูง 10 เมตรขึ้นไป ต้องจัดให้มีมาตรป้องกันฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง และอาคารซึ่งอยู่ในโครงการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน กั้นล้อมอาคารด้วยวัสดุกันฝุ่น เป็นต้น
ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เป็นปัญหาที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมแรงร่วมใจ บูรณาการทำงานในมิติตามบทบาทหน้าที่ของตน ให้อยู่บนเป้าหมายเดียวกันตามที่รัฐบาลเน้นย้ำและห่วงใย คือ การป้องกัน ควบคุม แก้ไข และลดปัญหา ผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมาณฑล รวมถึงภูมิภาคต่าง ๆ กรมป้องกันและบรรเทาสารณภัย จะดำเนินการเชิงรุกทั้งการแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broad cast กรณีพบว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีระดับความรุนแรง และแจ้งข้อแนะนำการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขเป็นไปแบบควบคู่ทั้งในภาคปฏิบัติและภาคการสื่อสารไปยังประชาชน และรับนโยบายปฏิบัติจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ต่าง ๆ และจังหวัดในพื้นที่ปริมาณฑลที่โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ อาทิ หากพบมีการปล่อยควันดำ ให้แจ้งมาที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อประสานกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนและดำเนินการป้องกันและรับมือกับปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 ที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนี้
1. การแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ให้กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ติดตามเฝ้าระวัง และวิเคราะห์สถานการณ์ฝุ่นละออง (PM 2.5) อย่างใกล้ชิด และสื่อสารข้อมูลสถานการณ์ให้ประชาชนทราบในช่องทางต่าง ๆ เป็นระยะ หากสถานการณ์อยู่ในระดับอันตราย ให้แจ้งเตือนประชาชนผ่านระบบ Cell Broadcast เพื่อให้ประชาชนทราบสถานการณ์และแนวทางปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย
2. การควบคุมและลดการเผาในพื้นที่เกษตร ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายจังหวัด (สำนักงานเกษตรจังหวัด) และกรุงเทพมหานคร ร่วมกันกำหนดพื้นที่ควบคุมการเผา ช่วงเวลา และเงื่อนไขการเผาในพื้นที่การเกษตรให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพทางอุตุนิยมวิทยา เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร
3. การควบคุมและลดการเผาในพื้นที่ป่า ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับหน่วยงานในพื้นที่ (สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้) เฝ้าระวังและควบคุมการเผาในพื้นที่ป่าอย่างเข้มงวด บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ฝ่าฝืนโดยเคร่งครัด รวมถึงจัดกำลังลาดตระเวนพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จัดทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่าลุกลาม และปิดป่าในช่วงสถานการณ์วิกฤต
4. การควบคุมและลดมลพิษในพื้นที่เมือง ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและดำเนินการเชิงรุก ตรวจจับยานพาหนะควันดำ การควบคุมฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ การตรวจวัดมลพิษทางอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น
#ปภ #ฝุ่นละอองขนาดเล็ก #pm2.5 #บกปภช








