การเมืองทั่วไป

“อรรถกร” ชูแผน “Quick Win” ดึงนักท่องเที่ยวจีน 2 ล้านคนภายใน 3 เดือน พร้อมเปิด 6 เส้นทางท่องเที่ยววิถีใหม่ จับมือแพลตฟอร์มยักษ์จีน

แชร์ข่าว

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงแผนงานเชิงรุกเร่งด่วน “Quick Win” เพื่อตอบรับช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าหมายสำคัญดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาเยือนประเทศไทยให้ได้ 2 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 เดือน แผนดังกล่าวเป็นการผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นความเชื่อมั่น และตอกย้ำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยบนเวทีโลกอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น จึงเป็นจังหวะสำคัญที่เราจะเดินหน้าแผน ‘Quick Win’ อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ในระยะเวลาอันสั้น

รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนทั้งไทยและจีน รวมถึงสื่อชั้นนำอย่าง National Geographic และแพลตฟอร์ม OTA อาทิ ฟลิกกี้ (Fliggy) เตี่ยนผิง (Dianping) ทูหนิว(Tuniu) และหม่าเฟิงหว่อ (MaFengWo) เพื่อแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของชาวจีนใน 27 พื้นที่ โดยแบ่งเป็น 6 หมวดหลัก ได้แก่ 1. สำรวจเส้นทางวัฒนธรรม ที่เน้นเที่ยวชุมชน วัด เพื่อสัมผัสเสน่ห์ดั้งเดิมของไทย 2. กินดื่มเที่ยวชิล ๆ ปักหมุดร้านอาหารท้องถิ่น สร้างโอกาสให้ชุมชน 3. การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมกีฬา เช่น ปีนผา ขี่จักรยาน และมวยไทย 4. ชมเส้นทางชมธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว Unseen เช่น ทะเลหมอกในพะเยา, แพะเมืองผี 5. เที่ยวแบบครอบครัว มีกิจกรรมที่หลากหลายปลอดภัย และได้ความรู้สำหรับทุกวัย และ 6. โรดทริป เจาะกลุ่มนักขับรถด้วยเส้นทางเชื่อมต่อ ไทย-จีน-ลาว ที่ปลอดภัยและได้รับความนิยม

ทั้งนี้แผน Quick Win เน้นการใช้การสื่อสารที่ทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำของจีน ประกอบด้วย Meituan-Dianping (เหม่ยถวน เตรี่ยนผิง): จัดงานประกาศรางวัลร่วมกับ Meituan--Dianping ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการอาหารและไลฟ์สไตล์ครบวงจรของจีน เพื่อโปรโมทจุดหมายปลายทางและบริการด้านการท่องเที่ยว

Xiaohongshu: สร้างกระแสผ่านแคมเปญและแฮชแท็ก #泰好了放假游 (ออกเสียงว่า “ไท่ห่าวเลอ ฟ่างเจี้ย โหยว” แปลว่า ไทยดีมาก เที่ยววันหยุด) เพื่อสร้างคอนเทนต์ด้านความปลอดภัย สนุก เป็นมิตร และสร้างจุดเช็กอินพร้อม Art Decoration ในเมืองท่องเที่ยวหลัก

WeTV: ร่วมมือกับรายการเรียลิตี้ที่ถ่ายทำในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเข้าถึงผู้ชมกว่า 100 ล้านวิว เพื่อสร้างอิมแพคการท่องเที่ยวไทยในระดับภูมิภาค

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังได้เซ็น MOU  2 มณฑล 6 เมือง สำคัญของจีน ได้แก่ มณฑลไห่หนาน เมือง Sanya (ซานย่า), Haikou (ไห่โข่ว) Wenchang (เหวินชาง) มณฑลเจียงซู (Jiangsu Province) เมือง Nanjing (หนานจิง), Suzhou (ซูโจว) และ เมือง Hangzhou (หางโจว) เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวโดยตรง"

นายอรรถกร กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่จะขาดไม่ได้ คือการสร้างความอุ่นใจเสมือนบ้านหลังที่สอง เราจึงเดินหน้าสร้าง Green Zones เพื่อตอกย้ำความไว้วางใจและความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเราได้นำเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงมาใช้ ผ่านความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม เหวยไท่กว๋อ (Wei! Taiguo) ในการวางระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือ SOS System ซึ่งมีจุดเด่นสำคัญคือ สามารถติดตามสถานะการช่วยเหลือได้แบบเรียลไทม์ (Real-time Tracking) ทำให้นักท่องเที่ยวทราบทันทีว่าความช่วยเหลืออยู่ที่ไหนและจะมาถึงเมื่อไหร่ ซึ่งระบบนี้จะเริ่มใช้งานใน 27 เมืองท่องเที่ยว เพื่อการันตีว่าไม่ว่านักท่องเที่ยว จะเดินทางไปที่ไหน ความปลอดภัยจะครอบคลุมไปถึงทุกที่

"การดำเนินการทั้งหมดนี้ มีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างแคมเปญสื่อสารคุณภาพ ที่จะดึงเสน่ห์ดั้งเดิมของไทย ทั้งความงดงาม รอยยิ้ม น้ำใจ และการต้อนรับแบบไทย กลับคืนสู่สายตานักท่องเที่ยวชาวจีน และบรรลุเป้าหมาย 2 ล้านคน ตามที่ตั้งไว้” นายอรรถกร กล่าว