วันที่ 5 ธ.ค.2568 นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณราร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. ... หรือร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม วุฒิสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ทางคณะกรรมาธิการประชุมแล้ว 3 ครั้ง เป็นการประชุมพิจารณาภาพรวมของร่างกฎหมายทั้งหมด ส่วนการประชุมนัดถัดไป คือ วันที่ 15 ธันวาคม 2568 จะได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายนี้ ทั้งในฐานะที่เป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ความขัดแย้ง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ถูกกระทำและตกเป็นจำเลยทางกฎหมาย มาให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทางคณะกรรมาธิการ อาทิ นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิกร จำนง เป็นต้น ในฐานะผู้ถูกกระทำและตกเป็นจำเลยทางกฎหมาย
นายไชยยงค์ ระบุอีกว่า คดีการเมืองมีบางส่วนที่ยังหลบหนีคดีอยู่ ก็จะได้รับการนิรโทษกรรม บางคนคดีอยู่ในศาลแต่ยังไม่ได้ตัดสิน เช่น นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำกปปส. ที่คดีอยู่ระหว่างชั้นอุทธรณ์ ถ้าวุฒิสภาให้ความเห็นชอบตามที่สภาผู้แทนราษฎร ก็จะทำให้บุคคลที่เป็นจำเลยทั้งที่หลบหนีและอยู่ในกระบวนการชั้นศาล ได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด ฉะนั้น ทางคณะกรรมาธิการจึงต้องการรับฟังความคิดเห็นของทุกคนที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าทางคณะกรรมาธิการจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข เสร็จสิ้น เพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาในวาระสอง และวาระสาม ก่อนการยุบสภาหรือไม่ นายไชยยงค์ ชี้แจงว่า ถ้ายุบสภาภายในเดือนธันวาคม วุฒิสภาพิจารณาไม่ทันแน่นอน แต่ถ้ายุบสภาตามกรอบ MOA วาระสองและวาระสามก็น่าจะผ่านไปได้
ถามต่อว่าถ้าร่างพ.ร.บ.ประกาศใช้เป็นกฎหมาย บรรดาแกนนำสีเสื้อต่างๆ ที่ได้รับการนิรโทษกรรมจะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งสส. ที่จะถึงได้เลยหรือไม่ นายไชยยงค์ ระบุว่า ลงสมัครสส.ได้ทันที เพราะถือว่าได้รับการนิรโทษกรรมแล้ว ความผิดไม่มี
“ขณะนี้กรรมาธิการส่วนใหญ่แบ่งเป็นสองฝ่าย บางส่วนเห็นว่ากรณีคนที่เผาบ้านเผาเมืองไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม รวมถึงพวกกระทำผิดตามมาตรา112 ก็ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม โดยเฉพาะคนเผาบ้านเผาเมือง ที่บอกว่าให้เอาน้ำมันไปคนละขวด ผมรับผิดชอบเอง ถือว่าไม่ควรอยู่ในข่ายนิรโทษกรรม ฉะนั้นผมเห็นว่ามีโอกาสสูงที่กรรมาธิการจะมีการปรับแก้ไขเนื้อหาในร่างกฎหมายฉบับนี้” นายไชยยงค์ กล่าว







