การเมืองทั่วไป

“สุดารัตน์” เตือนไทยเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Fail State ชี้ทุจริตฉุดประเทศทรุดหนัก

แชร์ข่าว

วันที่ 1 ธ.ค.68 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แถลงจุดยืนและเจตจำนงทางการเมือง โดยย้ำความมุ่งมั่นในการ “ทำเมืองสุจริต” ได้ระบุไว้ในข้อบังคับพรรค พร้อมระบุว่าพรรคไทยสร้างไทย จะไม่สนับสนุนการทุจริตและจะไม่ยอมให้ใครใช้ช่องทางรัฐเพื่อโกงชาติอีกต่อไป

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตลอด 33 ปีในชีวิตการเมือง ยึดคำสอนของบิดาเกี่ยวกับการดูแลเงินภาษีประชาชนให้ดียิ่งกว่าเงินของตนเอง และระบุว่าประสบการณ์การบริหาร 4 กระทรวง รวมถึงการกำกับดูแลงบประมาณแผ่นดินเกือบ 1 ล้านล้านบาท เป็นหลักฐานยืนยันความตั้งใจในการรักษาความสุจริต

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยยังอ้างถึงพระราชดำรัสรัชกาลที่ 9 ที่ว่า “ต้องส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ” พร้อมชี้ว่าปัจจุบันการทุจริตได้ทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะน่าเป็นห่วง ทั้งการเรียกรับผลประโยชน์ การรีดไถประชาชน การทุจริตงบประมาณแผ่นดิน รวมถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และระบบส่วยต่าง ๆ ที่สร้างความเสียหายปีละหลายแสนล้านบาท

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ปัญหาทุจริตไม่ได้จำกัดอยู่ที่งบประมาณ แต่ยังรวมถึงระบบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่มีผลประโยชน์เป็นเดิมพัน ทำให้ข้าราชการที่ดีท้อแท้และหมดกำลังใจ พร้อมตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพในการบริหารงานภาครัฐ เช่น กรณีน้ำท่วมหาดใหญ่และปัญหาความโปร่งใสในการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า OECD ชี้การทุจริตทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยหดหายถึง 3% แม้งบประมาณประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 6–7 แสนล้านบาทในอดีต มาเกือบ 4 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน แต่กลับไม่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้ ขณะที่หนี้ครัวเรือนสูงกว่า 16 ล้านล้านบาท จนเกือบเท่า GDP ประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า โครงสร้างการเมืองที่ใช้เงินทุนสูง ซื้อเสียง หรือซื้ออำนาจรัฐ ทำให้ประเทศเสี่ยงเข้าสู่ระบบ “State Capture” ซึ่งอาจนำพาเศรษฐกิจล่มสลายเช่นในประเทศบางแห่งในอเมริกาใต้และแอฟริกา

แม้จะยอมรับว่าการทำพรรคการเมืองขนาดเล็กในสภาวะปัจจุบันเป็นเรื่องยาก แต่คุณหญิงสุดารัตน์ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อ โดยอาศัยประสบการณ์การทำงานและย้ำว่าพรรคไทยสร้างไทย ต้องการเป็นพื้นที่สำหรับคนดีและคนมีความสามารถที่ต้องการทำงานการเมืองอย่างสุจริต

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยย้ำว่า การต่อสู้กับการทุจริตเป็นสิ่งจำเป็นเพื่ออนาคตของประเทศ และมองว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนคือพลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยพ้นจาก “หลุมดำของคอร์รัปชัน

แชร์ข่าว