การเมืองทั่วไป

นายกฯ ลั่นฆ้องส่งมอบโครงการขุดลอกแม่น้ำปิง ชมทุกหน่วยงานทำจนสำเร็จ บรรเทาอุทกภัยคนเชียงใหม่ บอกรบ.พร้อมหนุน ยันเงินมีแน่

แชร์ข่าว

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 20 พ.ย. 68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว. มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเดินทางไปยังโรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ด้วยรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน กจ 8888 เชียงใหม่ เพื่อเป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการเพิ่มศักยภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิงเพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ ระยะเร่งด่วน ดำเนินการโดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนากองบัญชาการกองทัพไทย

โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของโครงการเพิ่มศักยภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ระยะเร่งด่วน โดยหลายปีที่ผ่านมาปัญหาอุทกภัยในเขตเมืองเชียงใหม่สร้างความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สินและเศรษฐกิจของจังหวัดนี้อย่างมหาศาล โครงการนี้ไม่ใช่แค่การขุดลอก หรือขนดินออกจากลำน้ำเท่านั้น  แต่เป็นการขุดขจัดปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน สร้างความมั่นคงทางน้ำกลับคืนสู่พี่น้องเชียงใหม่อย่างเป็นรูปธรรม ขอชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่กรมชลประทาน กองทัพไทย โดยเฉพาะหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จังหวัดเชียงใหม่และท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งแข่งกับเวลา เพื่อให้โครงการกำจัดภัยน้ำท่วมนี้เดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือตัวอย่างที่ดีของภาครัฐ และท้องถิ่นที่ร่วมกันสนับสนุนพัฒนาบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน โครงการนี้จะเพิ่มความจุของแม่น้ำทำให้ลำน้ำลึกขึ้น กว้างขึ้น รับน้ำหลากได้มากขึ้นช่วยลดโอกาสน้ำท้วมล้นในเขตเมือง ซึ่งจะเป็นการบรรเทาอุทกภัยในเมืองเชียงใหม่ อีกทั้งยังสร้างความมั่นคงในฤดูแล้งช่วยเก็บน้ำไว้ใช้ได้มากขึ้น ชุมชนจะมีน้ำเพียงพอในช่วงหน้าแล้ง สำหรับการอุปโภคและบริโภครวมถึงการเกษตร

นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์จากทรายคุณภาพดีที่ขุดลอกขึ้นมาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ ช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐ แต่ถือว่าโครงการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำคัญโครงการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำปิงอย่างยั่งยืน จากนี้ไปจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องใน 2 เรื่องหลักคือ การบำรุงรักษาให้มีความต่อเนื่องและการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการบุกรุกป่าต้นน้ำการจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลจากเหนือสู่ใต้ได้เป็นระบบและปลอดภัยต่อชุมชน

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินหน้าสนับสนุนแผนงานระยะต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการน้ำให้เกิดความสมบูรณ์และยั่งยืนทั่วทั้งจังหวัดครอบคลุมลุ่มน้ำปิงต่อไป สุดท้ายนี้ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง เพราะนี่คือความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทุกคนขอให้สานต่อพลังความร่วมมือนี้ต่อไป เราต้องช่วยกันดูแลรักษาแม่น้ำให้เป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตความเจริญและความภาคภูมิใจของพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ตลอดจนผู้ที่มาเยือนเชียงใหม่ทุกคน

โอกาสนี้นายกฯ ได้ตีฆ้องแสดงสัญลักษณ์ความสำเร็จในการดำเนินโครงการดังกล่าว ก่อนถ่ายภาพยกมือกดไลค์ร่วมกัน

จากนั้นนายกฯ และคณะร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลา บริเวณริมแม่น้ำปิง โดยเป็นพันธุ์ปลาตะเพียนและปลาสวาย จาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเชียงใหม่รวมทั้งหมด 100,000 ตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ ปล่อยปลา ได้อุ้มเด็กนักเรียนขึ้นมา ร่วมปล่อยปลาด้วย พร้อมกล่าวหยอกล้อกับเด็กด้วยว่า "ให้ปล่อยหนูลงไปด้วยไหม" ก่อนที่นายกฯจะทำถังใส่ปลาหลุดมือ สร้างเสียงหัวเราะให้กับคณะที่ร่วมปล่อยปลา

จากนั้นนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการดังกล่าวว่า โครงการนี้เป็นการทดลองให้เห็นว่า สิ่งที่ทำลงไปประสบผลสำเร็จ เป็นการร่วมมือเพื่อป้องกันและบริหารจัดการน้ำท่วม ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความร่วมมือจากกองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยกองบัญชาการทหารพัฒนา มาช่วยกันขุดลอก รวมถึงกำจัดสิ่งกีดขวางวัชพืช ทางน้ำ ทั้งนี้จำได้ว่าปี 2567 สถานการณ์น้ำรุนแรงมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องของแม่น้ำอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องของวัชพืชขยะมูลฝอย ซากต้นไม้ต่างๆ อยู่ในลุ่มแม่น้ำปิง ทำให้การไหลเวียนของน้ำช้า ขณะเดียวกันมีหลายสะพานมีวัชพืชไปติดคอสะพาน จึงทำให้น้ำระบายไม่ทัน ออกไปด้านข้างรถท่วมตัวเมือง ส่งผลความเดือดร้อนมากมาย ซึ่งขณะนั้นตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด หาความร่วมมือจัดการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซากและสนับสนุนเรื่องงบประมาณ ซึ่งรัฐบาลนี้ได้เตรียมการงบประมาณแสนกว่าล้านบาทไว้อยู่แล้ว ใช้ระยะเวลา 7 ปี หารแล้วตกเดือนละหมื่นกว่าล้านบาท มีเงินแน่ ไม่ต้องห่วง  ในการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อไม่ต้องมาจ่ายเยียวยากันทุกปี ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ แต่จังหวัดเชียงราย ก็ได้ดำเนินการแล้วและจะทำในทุกจังหวัด เพราะการเยียวยาปีหนึ่ง ตก 3-4 หมื่นล้านบาท ถ้าน้ำไม่ท่วมก็ไม่ต้องมีการเยียวยา จึงนำงบประมาณตรงนี้มาแก้ไขปัญหาระยะยาว เราเชื่อว่าระหว่างได้เงินเยียวยา กับชาวบ้านไม่ต้องประสบภาวะน้ำท่วม เชื่อว่าชาวบ้านไม่ต้องการน้ำท่วมมากกว่า เพราะเงินเยียวยาจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ผ่านมาได้ย้ำให้กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เร่งนำเสนอให้ ครม.อนุมัติโครงการระบายน้ำคู่ขนานต่างๆ

ส่วนเรื่องสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกที่เป็นปัญหาอยู่นั้น นายกฯ กล่าวว่าต้องคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้คุยกันอยู่แล้ว

ข่าวแนะนำ