การเมืองทั่วไป

นายกฯ หารือสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย–จีน เดินหน้าความร่วมมือการค้า การท่องเที่ยว เปิดตลาดสินค้าเกษตร เพิ่มบทลงโทษสแกมเมอร์

แชร์ข่าว

วันนี้ (18 พ.ย. 2568) เวลา 16.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกิตติพงษ์ เตรัตนชัย นายกกิตติมศักดิ์เกียรติคุณถาวรสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย - จีน และนายวีระ วาณิชยพิทักษ์ นายกสมาคมฯ นำคณะกรรมการและสมาชิกสมาคมฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนโยบายการนำเข้าและส่งออกสินค้าของไทย

สำหรับสมาชิกสมาคมฯ ที่มาเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในวันนี้ประกอบด้วยภาคเอกชนที่ครอบคลุมหลากหลายภาคส่วนธุรกิจ ทั้งภาคการโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ อาหาร สิ่งพิมพ์ เครื่องมือช่าง และอุปกรณ์ไฟฟ้า อาทิ บริษัท ธีรชัยไพศาล คอร์ปอเรชั่น, โรงแรมมิลอฟ สาทร, ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย), ส.ขอนแก่นฟู้ดส์, ไทยฮั้วยางพารา, หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป,ดีสโตน คอร์ปเรชั่น, ยูโรเปี้ยน ฟู้ด, สหไทย เทอร์มินอล, ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป, ไทยเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลล็อปเมนท์, หนังสือพิมพ์เกียฮั้ว ตงง้วนรายวัน (ศิรินคร), ทีทีซี เพาเวอร์ทูลส์ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมาโดยตลอด โดยในการประชุม APEC ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยว่าจะไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้กาสิโน พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่าประเทศไทยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน ทำให้ประธานาธิบดีจีนแสดงความพึงพอใจและยินดีที่จะสนับสนุนให้ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้มีโอกาสหารือกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของจีน ต่อยอดจากการประชุม APEC โดยเฉพาะการผลักดันให้จีนช่วยส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรไทย ซึ่งการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่นและบรรลุผลสำเร็จ โดยจีนได้ยืนยันความตั้งใจที่จะนำเข้าข้าวไทยจำนวน 500,000 ตัน พร้อมยังได้เชิญประธานาธิบดีจีนให้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการด้วย

ผลลัพธ์และความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าท่าทีของฝ่ายจีนต่อประเทศไทยดีขึ้นมาก ซึ่งรัฐบาลจะมุ่งใช้โอกาสนี้ในการกระชับความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยไทยและจีนถือเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดเสมือนเครือญาติกัน ยืนยันว่า ความร่วมมือระหว่างไทย–จีนจะได้รับการเสริมสร้างในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ

โอกาสนี้ สมาคมวิเทศพาณิชย์ ไทย-จีน ได้สรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศนอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมีกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการส่งมอบถุงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสนับสนุนสิ่งของจำเป็นให้กำลังพลในพื้นที่แนวชายแดน เป็นต้น พร้อมยังกล่าวชื่นชมการทำงานของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของบ้านเมือง โดยเฉพาะปัญหาสแกมเมอร์ ซึ่งสมาคมฯ เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษและมาตรการที่รุนแรงขึ้น

สำหรับในเรื่องการผลักดันการท่องเที่ยว สมาคมฯ เสนอให้มีมาตรการจูงใจทางการเงินโดยตรงให้กับนักท่องเที่ยวจีน เช่น การส่งเสริมให้ใช้ดิจิทัลวอลเล็ตอย่าง Alipay และ WeChat Pay ในการชำระค่าบริการท่องเที่ยวต่างๆ

นายกรัฐมนตรียินดีรับข้อเสนอของสมาคมฯ ไปพิจารณา พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะเร่งผลักดันและเสริมสร้างความร่วมมือไทย–จีนให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศในระยะยาว

ข่าวแนะนำ

แชร์ข่าว