วันที่ 17 พ.ย.2568 เวลา 10.00 น.ที่อาคารอนาคตใหม่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยถึงความพร้อมในสนามเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปี 2569 ว่าพรรคประชาชนมีแผนจะสรุปและสื่อสารเรื่องแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ต่อสาธารณะในเร็วๆ นี้ พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภากทม.(สก.) ทั้ง 50 เขต ด้วย แต่ขอให้มีข้อสรุปอย่างชัดเจนก่อนแล้วจะกำหนดวันและเวลาในการแถลงข่าวอย่างชัดเจนอีกครั้ง
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการทาบทาบ น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคไทยสร้างไทย มาเป็นผู้สมัครของพรรค นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขอไม่ยืนยัน และไม่ปฏิเสธข่าวใด เพราะคิดว่าเวลานี้สิ่งสำคัญคือพรรคต้องตกผลึกทุกขั้นตอนในกระบวนการภายใน และเมื่อได้ข้อสรุป 100% ก็จะแจ้งต่อสาธารณะต่อไป
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองอื่นทยอยเปิดตัวผู้สมัคร สส. แล้ว พรรคประชาชนมีแผนจะเปิดตัวผู้สมัคร สส. เมื่อไหร่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการภายใน พรรคประชาชนได้มีการคัดเลือก และอบรมผู้สมัคร สส. ทั้ง 400 เขต และ 200 บัญชีรายชื่อ อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเองก็เป็นวิทยากรคนหนึ่งที่ร่วมอบรมให้ผู้สมัครที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งด้วย แต่คงรอให้กระบวนการภายในเสร็จสิ้นก่อน จึงจะมีการทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ยืนยันว่า พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งแน่นอน ไม่ต้องกังวล
เมื่อถามว่ามีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร สส. จะเข้มข้นขึ้นกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า รอบนี้เรามีพี่น้องประชาชนที่สนใจลงสมัคร สส. กับพรรคประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันที่เข้มข้น เชื่อว่าจะสามารถคัดเลือกผู้สมัครที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด
“ขอย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากผู้สมัคร สส. ที่จะคัดกรองอย่างเข้มข้นแล้ว เราก็จะมีการเปิดทีมบริหารที่จะเข้ามาขับเคลื่อนนโยบายในกระทรวงต่างๆ ของฝ่ายบริหารด้วยเช่นกัน บางคนอาจจะไม่ได้เป็นผู้สมัคร สส. และพร้อมจะเปิดเผยให้ประชาชนได้เห็นตัวตน เป็นมิติใหม่ที่ไม่เคยมีในสนามการเมืองไทย ว่าหากให้ความไว้วางใจเลือกพรรคประชาชนทั้ง 2 ใบแล้ว หน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) และทีมบริหารของพรรคประชาชนจะเป็นอย่างไร” นายพริษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่าได้ประเมินกระแสนิยมของพรรคประชาชนในช่วงก่อนเลือกตั้งหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ผู้ที่จะตัดสินได้ดีที่สุดว่า พรรคประชาชนจะเข้าไปบริหารประเทศได้หรือไม่ คือพี่น้องประชาชนในวันเลือกตั้ง แต่ ณ เวลานี้ เรายังห่างจากการเลือกตั้งอยู่พอสมควร เกินกว่าจะสรุปได้ว่าคะแนนนิยมของแต่ละพรรคเป็นเช่นไร จึงคิดว่าอยากให้สมาธิในช่วงเวลาที่เหลือให้เต็มที่ในการนำเสนอนโยบาย และสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชน มากกว่าการมาคาดว่า คะแนนนิยมของแต่ละพรรคเป็นเช่นไร







