โพลล์เผย คนไทยส่วนใหญ่เคยถูกสแกม-เรียกร้องรัฐทลายเครือข่ายต้นตอ ด้านความเชื่อมั่นผู้นำยังไม่ฟื้น ลีดเดอร์ชิพโพลล์ วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต สำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน ระหว่างวันที่ 7–15 พฤศจิกายน 2568 พบว่า ปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ได้กลายเป็นประสบการณ์ร่วมของสังคมไทยอย่างชัดเจน และทำให้ประชาชนจับตามาตรการ “สงครามกับสแกมเมอร์” ของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด พบว่า
คนไทย 3 ใน 4 เคยถูกติดต่อหลอกลวง -“โทรแอบอ้าง” ยังเป็นวิธีฮิตที่สุด ผลสำรวจพบว่า 74.42% เคยถูกสแกมหลอกลวง ไม่ว่าจะเป็นการโทรแอบอ้าง ลิงก์ปลอม หรือ SMS โดยเฉพาะการโทรแอบอ้างที่ยังนำมาเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 73% ขณะที่พัสดุปลอมและโรแมนซ์สแกมพบในสัดส่วนค่อนข้างต่ำ
ด้านช่องทางรับรู้ข่าวสแกม ประชาชนส่วนใหญ่มาจาก สื่อออนไลน์ สูงถึง 74.33% สะท้อนบทบาทสำคัญของโซเชียลมีเดียในการกระจายข้อมูล
สังคมไทยรับรู้ชัด-อาชญากรรมไซเบอร์กระทบเศรษฐกิจ “อย่างรุนแรง” กว่า 82.42% เชื่อว่าความเสียหายอยู่ในระดับสูงสุด และแทบไม่มีผู้ตอบแบบสำรวจที่มองว่าปัญหานี้เป็นเรื่องเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากอาชญากรรมไซเบอร์เป็นสิ่งที่ประชาชนรับรู้ร่วมกันอย่างกว้างขวาง
ความคาดหวังสูง-ประชาชนเร่งรัฐ “ทลายต้นตอเครือข่าย” มาตรการที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุด ได้แก่ เร่งทลายแหล่งเครือข่ายสแกมเมอร์ 55.83% เพิ่มบทลงโทษ 12.67%
ให้ความรู้ประชาชน 12.08%
ส่วนมาตรการควบคุมธุรกรรมเสี่ยง ความร่วมมือต่างประเทศ และการใช้ AI ในการตรวจจับ ถูกจัดมาเป็นลำดับรองลงมา
ผลสำรวจชี้ชัดว่า ประชาชนมองว่า “การตัดตอนที่ต้นทาง” คือกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาสแกมอย่างยั่งยืน
หนุนสงครามสแกม-but ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะทำสำเร็จ แม้ประชาชนส่วนใหญ่ 59.33% เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับการที่รัฐบาลประกาศสงครามกับสแกมเมอร์ แต่เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะ “ชนะ” สงครามนี้ได้หรือไม่ ผลกลับตรงข้าม ไม่เชื่อมั่น 37.17% เชื่อมั่นน้อย 22.25% เชื่อมั่นปานกลาง 20.67% และเชื่อมั่นมาก มีเพียง 4.08% สะท้อน “ช่องว่าง” ระหว่างการสนับสนุนเชิงนโยบาย กับความเชื่อมั่นในภาวะผู้นำ ที่ยังต้องพิสูจน์ด้วยผลลัพธ์จริง








