“เท้ง” ลุยน้ำท่วมปทุมธานี แนะรัฐบาลทบทวนแนวบริหารจัดการน้ำ พร้อมย้ำเงินเยียวยาต้องเป็นธรรมตามระยะเวลาที่น้ำท่วม ไม่ใช่เหมาจ่าย 9,000 บาท
วันที่ 15 พ.ย.68 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน และ นายมนต์พิพัฒน์ เอี่ยมจรัส นายกเทศบาลเมืองบางคูวัด เข้าพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัย จากการที่รัฐระบายน้ำในระดับสูง และเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการน้ำ จากเดิมที่เปิดรับน้ำเข้าทุ่งทั้ง 10 ตอนล่างตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนมาเป็นการใช้น้ำเข้าทุ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย ทำให้พื้นที่นอกคันกั้นน้ำในลุ่มเจ้าพระยาและท่าจีนต้องเผชิญน้ำท่วมยาวนานกว่า 4 เดือน
โดยช่วงเช้า นายณัฐพงษ์ พร้อม สส. เดินทางไปยังวัดสวนมะม่วงและวัดป่างิ้ว ประชาชนในพื้นที่ได้สะท้อนถึงความยากลำบากในการดำรงชีวิต ด้วยสภาพพื้นที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำ ซึ่งมีการสัญจรของเรือทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กด้วยความเร็ว ทำให้น้ำซัดเข้ามาสร้างความเสียหายเพิ่มอีก
นอกจากนี้ ประชาชนยังสะท้อนเรื่องเงินเยียวยา ที่ไม่ว่าจะท่วมนานแค่ไหนหรือหนักแค่ไหน ก็จะคงที่อยู่ที่ 9,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเกือบทุกคนเห็นด้วยหากจะมีการปรับหลักเกณฑ์การจ่ายให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ได้ผลกระทบ
โดยขณะนี้ เทศบาลเมืองบางคูวัดได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบทุกหลังคาเรือน โดยมีการส่งมอบข้าวกล่องทุกวันจนกว่าน้ำจะลด พร้อมถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น รวมถึงทำสะพานไม้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ และเทศบาลยังได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน 24 ชั่วโมง ส่วนในระยะยาว เทศบาลได้เตรียมโครงการป้องกันน้ำท่วมชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำหรับ ปี 2570 ระยะ 1.5 กม. ไว้ ซึ่งผ่านประชาคมได้รับความเห็นชอบจากประชาชนในพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคประชาชนได้เสนอ 5 ข้อให้รัฐบาลทบทวนแนวทางบริหารจัดการน้ำในการป้องกันน้ำท่วมที่หนักและยาวนาน การช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัย และการลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมหนักและยาวนานเช่นนี้อีก ไม่ว่าจะเป็น
(1) ทบทวนแนวทาง “ท่วมในทางก่อนท่วมในทุ่ง” พร้อมลดปริมาณน้ำสูงสุดและเพิ่มการแจ้งเตือนล่วงหน้า
(2) ปรับเกณฑ์การเยียวยาให้สะท้อนระยะเวลาน้ำท่วมที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แบบเหมาจ่าย 9,000 บาท
(3) ยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ประสบภัยและศูนย์พักพิง
(4) วางแผนฟื้นฟูและยกระดับชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำทั้งระยะสั้น–ระยะยาว
(5) ทบทวนความเป็นไปได้ของโครงการป้องกันน้ำท่วมขนาดใหญ่ที่ล่าช้าจากแผน เพื่อให้การลงทุนและการป้องกันน้ำท่วมมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวด้วยว่า ในวันที่พรรคประชาชนยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ยังไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการน้ำทั้งระบบได้ สิ่งที่พรรคประชาชนได้ทำในวันนี้คือการจัดการผ่านกลไกในท้องถิ่น เช่นในพื้นที่เทศบาลเมืองบางคูวัด ที่มีนายกเทศบาลจากพรรคประชาชนเข้ามาบริหาร ก็ได้ดำเนินการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
ตนขอส่งกำลังใจให้พี่น้องทุกคนที่กำลังเผชิญน้ำท่วมยาวนาน การหยุดวงจรน้ำท่วมซ้ำซาก จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยต้องทำอย่างต่อเนื่อง ที่ถึงแม้อาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน แต่ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และต้องทำผ่านรัฐบาลที่ทำงานกันเป็นทีมข้ามกระทรวง ไม่ได้แบ่งกระทรวงกันทำตามโควตาทางการเมือง








