เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่อาคารอนาคตใหม่ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงจุดยืนพรรคประชาชนต่อกรณีรัฐบาล 4 เดือนจะขยายอายุสัมปทานทางด่วนทางด่วนชั้นที่ 2 หรือ Double Deck ยาวนานข้ามศตวรรษ ต่อความร่ำรวยให้นายทุน หาเงินไปใช้เลือกตั้งใช่หรือไม่ โดยตั้งข้อสังเกตถึงการลดค่าทางด่วนไม่เกิน 50 บาทเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไม่รวมโครงการพิเศษระหว่างเมือง เป็นโฆษณาเกินจริง ซึ่งอาจเข้าใจได้ว่าเป็นข่าวดี แต่กลับถูกแลกกับการขยายสัมปทาน จากเดิมปี2563-2578 และล่าสุดขยายข้ามศตวรรษ 15 ปี 8 เดือน ถึง 31มีนาคม 2601 เป็นการทำการตลาดให้ประชาชนเห็นว่าจ่ายค่าผ่านทางถูกลงแต่คุ้มหรือไม่ ที่ในระยะยาวจะเข้ากระเป๋านายทุนสูงขึ้น และการขึ้นทางด่วนฟรีวันหยุดไม่ใช่ผลงานรัฐบาล แต่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขการขยายสัปทานด้วย
นายสุรเชษฐ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเอกชนได้รับผลประโยชน์ลดลงต้องแลกมาด้วยอะไรต่างๆมามากอย่างโครงการขนาดใหญ่ก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 มูลค่างบประมาณ 34,800 ล้านบาท ซึ่งการขยายสัมปทานในลักษณะเช่นนี้เป็นการแช่แข็งการพัฒนา ดเวยการผูกพันของสัมปทาน พร้อมมองว่าการทำทางด่วน 2 ชั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะการก่อสร้างอยู่ในช่วง งามวงศ์วาน -พระราม 9 ซึ่งไม่มีทางลงต้องใช้ทางลงเดียวกับทางด่วนชั้นที่1 เป็นเพียงการเพิ่มพื้นที่จอดรถทางอากาศที่แพงมากไม่ได้คุ้มค่า
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า การลดค่าทางด่วนสามารถลดได้อยู่แล้วในช่วงกลางคืน หากปล่อยให้สัมปทานหมดแล้วคืนสู่รัฐ แลกกับการปรับขึ้นราคาในช่วงเวลาเร่งด่วน และตั้งสังเกตว่า ในช่วงทางด่วนสายสีแดง ช่วงแจ้งวัฒนะ -บางปะอิน ไม่ได้เกี่ยวของกับโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 แต่ได้ ขยายสัมปทานไปด้วย
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่ได้ค้านแบบหัวชนฝา แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนอย่างชัดเจน พร้อมอยากชวนคิดว่าผู้บริหารกทม.ชงเพื่อใคร ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้บริหารกทม.แม้ว่าจะเปลี่ยนรัฐมนตรีแล้ว ใครปั้นกันมากันแน่
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคประชาชน คัดค้านด้วย 4 เหตุผลคือ 1.ไม่คุ้มค่า 2.ไม่โปร่งใส 3.ไม่ได้ดีจริง และ 4.ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลนี้ นี่เป็นรัฐบาลที่ MOA ที่อยู่ไม่เกิน 31 มกราคม 2569 แต่กำลังคิดจะสร้างภาระให้กับประชาชนไปถึงปี2061 ดีลใหญ่ๆไม่ควรเกิดขึ้นรัฐบาลนี้ ขอให้รอรัฐบาลหน้าที่มาด้วยความชอบธรรมในการเลือกตั้ง เป็นผู้ดำเนินการ
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนได้รับข้อมูลจากข้าราชการว่ามีวาระลับในคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ คณะกรรมการ PPP เมื่อ 31 ตุลาคม 2568 ขอให้ถามสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (สคล.) มีเรื่องขยายสัมปทานหรือไม่ และมติคืออะไร เพราะหากหลุดจากบอร์ด PPP จะหลุดเข้า ครม.ทันที
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แล้วหรือยัง นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในการประชุม กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเชิญนายพิพัฒน์มานั้น เป็นการหารือเรื่องตั๋วร่วมและค่าโดยสารร่วมเป็นหลัก แต่ตนก็ได้ลองสอบถามนายพิฒน์ดู ท่านก็เบรกแบบขำๆ ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
นายสุรเชษฐ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนช่วยกันติดตามเรื่องดังกล่าว เพื่อเรียกร้องไปถึงรัฐบาลว่า จะทำอะไรให้คิดถึงประชาชนมากๆ








