เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ไทยและกัมพูชาได้จัดขึ้นอย่างประสบความสำเร็จ ณ เมืองยู่ซี มณฑลยูนนาน โดยมีนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชาและผู้นำทางทหารจากทั้งสามประเทศเข้าร่วมการประชุม
นายหวัง อี้ กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา จีนได้ยึดมั่นในเจตนารมณ์ของความริเริ่มด้านความมั่นคงโลกที่เสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และได้เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างสองฝ่ายอย่างแข็งขัน ผู้นำจีนได้รักษาการติดต่อสื่อสารที่เป็นมิตรกับผู้นำไทยและกัมพูชา โดยมีการโทรศัพท์พูดคุยกันหลายครั้งระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ และการเยือนของทูตพิเศษจีนถึงสี่ครั้ง จุดมุ่งหมายหลักของความพยายามเหล่านี้คือการรับฟังความคิดเห็นของทั้งสองฝ่าย โดยคำนึงถึงความสนใจและข้อกังวลที่เหมาะสมของแต่ละฝ่าย และการหาวิธีแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจา ด้วยความพยายามร่วมกันของทุกฝ่าย กองทัพไทยและกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจีนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
นายหวัง อี้ กล่าวว่า การประชุมไตรภาคีครั้งนี้จัดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม เราได้จัดการเจรจาทวิภาคีหลายครั้งที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนเชิงลึกแบบตัวต่อตัวระหว่างฝ่ายการทูตและฝ่ายทหารของไทยและกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่เป็นบวกและเปิดกว้าง มุ่งมั่นที่จะบรรเทาความตึงเครียดและลดระดับความรุนแรง และเต็มใจที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคีบนพื้นฐานของการหยุดยิง การหารือระหว่างสามฝ่ายเป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ โดยบรรลุข้อตกลงที่สำคัญแล้วดังนี้ ประการแรก เราต้องมองไปข้างหน้าและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ข้อตกลงหยุดยิงนั้นได้มาด้วยความยากลำบากและไม่สามารถหยุดชะงัก ล้มเลิกกลางคัน หรือปล่อยให้เกิดการปะทะขึ้นอีกได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการและไม่ใช่สิ่งที่จีนมุ่งหวัง ประการที่สอง เราต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่หยุดยั้ง การดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงต้องอาศัยการสื่อสารและการปรึกหารืออย่างต่อเนื่อง และการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีก็ต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเชื่อมั่นและมีส่วนร่วมในการเจรจาอย่างเท่าเทียมกัน เป้าหมายก็สามารถบรรลุได้อย่างแน่นอน ประการที่สาม การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ความขัดแย้งได้ก่อให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจ แต่ไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านกันมายาวนาน มีประวัติศาสตร์แห่งการแลกเปลี่ยนฉันมิตร การประชุมที่ทะเลสาบฝูเซียนในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเยียวยาบาดแผลที่เกิดจากความขัดแย้ง ขจัดอุปสรรคในใจของกันและกัน และบรรลุถึงการปรองดองอย่างแท้จริง นี่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนไทยและกัมพูชา และเป็นความคาดหวังร่วมกันของทุกฝ่าย จีนจะเป็นผู้ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาเสมอ และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนที่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงการเฝ้าระวังการหยุดยิง ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด จีนหวังและเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาจะกลับคืนสู่เส้นทางที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกัมพูชาได้กล่าวขอบคุณจีนที่จัดเวทีการเจรจาในครั้งนี้ และชื่นชมบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของจีนในการแก้ไขความขัดแย้ง ลดความตึงเครียด และส่งเสริมการเจรจา ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพ และแสดงความเต็มใจที่จะดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างแข็งขัน ใช้กลไกการเจรจาในทุกระดับให้เกิดประโยชน์สูงสุด ร่วมกันจัดการและแก้ไขข้อพิพาท และร่วมกันรักษาสันติภาพและความสงบสุขในบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศ
หลังจากการประชุมไตรภาคี ได้มีการออกแถลงการณ์ข่าวโดยระบุถึง 5 ประเด็นสำคัญที่ไทยและกัมพูชาจะเพิ่มความเข้มข้นของการติดต่อสื่อสาร สร้างความเข้าใจ ดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อเสริมความมั่นคงของการหยุดยิง ฟื้นฟูการไปมาหาสู่กันระหว่างกัน สร้างความไว้วางใจทางการเมืองขึ้นใหม่ บรรลุการพลิกฟื้นความสัมพันธ์ และธำรงรักษาสันติภาพในภูมิภาค







