ต่างประเทศ

“กต.”ย้ำจุดยืนไทยชัด! หยุดยิงต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ วาง 3 เงื่อนไข ลั่นเดินหน้าช่วยคนไทยตกค้างเต็มกำลัง

แชร์ข่าว

“กต.”ย้ำจุดยืนไทยชัด! หยุดยิงต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ วาง 3 เงื่อนไข ลั่นเดินหน้าช่วยคนไทยตกค้างเต็มกำลัง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงจุดยืนด้านการต่างประเทศของไทยต่อกระแสเรียกร้องจากหลายประเทศให้ไทยและกัมพูชาเจรจาหยุดยิง โดย มาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ไทยแสดงท่าทีอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอมาโดยตลอด ผ่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

รองโฆษก กต. ระบุว่า ตามหลักสากล การหยุดยิงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับประเทศคู่ขัดแย้งโดยตรง และต้องพิสูจน์ได้จากการปฏิบัติจริง ไม่ใช่เพียงถ้อยแถลง ซึ่งฝ่ายไทยยังคงรอเห็นการกระทำที่ชัดเจนจากฝ่ายกัมพูชา

ทั้งนี้ ไทยได้กำหนด 3 เงื่อนไขหลัก ที่ต้องการเห็นจากกัมพูชา เพื่อให้การหยุดยิงเกิดขึ้นอย่างมีความหมาย ได้แก่ 1. กัมพูชาต้องประกาศหยุดยิงก่อน ในฐานะฝ่ายที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนของไทย 2. การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริง ต่อเนื่อง และไม่กลับมาใช้ความรุนแรงซ้ำ 3.กัมพูชาต้องให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด ภายใต้กรอบอนุสัญญาออตตาวา

พร้อมย้ำว่า การปฏิบัติการทั้งหมดของฝ่ายไทยเป็นไปตามสิทธิในการป้องกันตนเอง ตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และสอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งไทยยึดถืออย่างเคร่งครัด

ในด้านความคืบหน้าทางการทูต รองโฆษก กต. เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ได้ประกาศจัดการประชุม Special ASEAN Ministers' Meeting หรือการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยพร้อมเข้าร่วม และเห็นว่าประเด็นสำคัญระดับภูมิภาคเช่นนี้ควรเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน เพื่อหารืออย่างจริงจัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานรายละเอียดผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา โดยปัจจุบันมีคนไทยลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ เพื่อรอเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 669 คน ซึ่งตัวเลขอาจปรับเปลี่ยนได้เป็นรายวัน โดยจนถึงวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางออกจากกรุงพนมเปญแล้ว 352 คน อยู่ระหว่างรอกำหนดการเดินทางอีก 4 คน และยังคงเหลือ 317 คน

สำหรับคนไทยในพื้นที่ปอยเปต ประเมินว่ามีอยู่ประมาณ 5,000–6,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขโดยประมาณ เนื่องจากยังไม่ได้มีการลงทะเบียนครบถ้วนทั้งหมด

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศยืนยันความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านเอกสารเดินทางฉุกเฉิน รวมถึงการเดินทางทางอากาศจากกรุงพนมเปญและเสียมราฐ โดยขอให้คนไทยที่พำนักอยู่ในกัมพูชาและประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ได้ตลอดเวลา

 

แชร์ข่าว