เทคโนโลยี

AOC 1441 เตือนภัย 5 กลโกงระบาดหนัก ช่วงปีใหม่ ขอ ปชช. ยึดหลัก “4 ไม่”

แชร์ข่าว

วันที่ 10 ธันวาคม 2568 นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายข้าราชการประจำ เปิดเผยว่า นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มอบนโยบายการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ สแกมเมอร์ โดยเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยออนไลน์ การหลอกลวงของมิจฉาชีพ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบความเสียหายจากสแกมเมอร์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) หรือ ศูนย์ AOC 1441 ได้แจ้งเตือนภัยการหลอกลวงในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยพบว่าข้อมูลการระงับบัญชีสูงสุดจากรูปแบบการหลอกลวงที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่องของมิจฉาชีพ 5 อันดับแรก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 – 17 ธันวาคม 2568 ซึ่งประชาชนต้องระวังเป็นพิเศษ มีดังนี้

1.หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ

พบการระงับบัญชีแล้ว จำนวน 349,054 บัญชี (31.90%) โดยขอแจ้งเตือนให้ระวังการหลอกลวงจองที่พักปลอม ร้านอาหารปลอม หรือซื้อของขวัญราคาถูกเกินจริง

2.หลอกลวงทำงานหารายได้พิเศษ

พบการระงับบัญชีแล้ว 229,829 บัญชี (21.00%) ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการหารายได้เสริม หรือทำงานเสริมในช่วงวันหยุดยาว ที่มักใช้ข้ออ้างว่า "รายได้ดี ทำงานที่บ้านได้"

3.หลอกลวงโอนเงินเพื่อรับรางวัล

พบการระงับบัญชีแล้ว 207,902 บัญชี (19.00%) สำหรับรูปแบบการหลอกลวง มิจฉาชีพมักใช้การส่ง SMS แนบลิงก์ระบุข้อความ "ของขวัญปีใหม่" หรือ "ผู้โชคดี" และให้ทำตามเงื่อนไขที่ต้องโอนเงินก่อนได้รับของรางวัล

4.หลอกลวงลงทุน

พบการระงับบัญชีแล้ว 139,138 บัญชี (12.72%) โดยมิจฉาชีพมักใช้วิธีการชักชวนให้นำเงินโบนัส ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรืออื่นๆ ซึ่งมักอ้างว่าลงทุนง่าย กำไรดี ได้ผลตอบแทนเร็ว

5.หลอกลวงให้กู้เงิน

พบการระงับบัญชีแล้ว 74,320 บัญชี (6.79%) ซึ่งในช่วงปีใหม่ที่ประชาชน หรือผู้ประกอบการจำเป็นต้องใช้เงินทุน หรือเงินเพื่อการท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพหลอกลวง การปล่อยเงินกู้ สินเชื่อ โดยมักอ้าง การโอนไว อนุมัติง่าย ทำให้ประชาชนหลงเชื่อ ถูกหลอกลวงข้อมูลส่วนบุคคล และหลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงินในบัญชี

ทั้งนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนในระวังพฤติกรรมการหลอกลวงต่างๆจากสแกมเมอร์ ซึ่งมักใช้ช่องทางการหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดีย อาทิ Facebook ,Line และ TikTok โดยขอเน้นย้ำว่า การลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ขอให้ผู้เสียหายตรวจสอบ และติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด เช่นเดียวกับ การซื้อสินค้าออนไลน์ การจองที่พักโรงแรม ร้านอาหาร

ขณะเดียวกันประชาชน สามารถติดต่อสอบถามเพื่อยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือแจ้งระงับบัญชีผ่านทางสายด่วน AOC 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้ประชาชนยึดหลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด และอัปโหลดแพลตฟอร์ม ที่มีการส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ ซึ่งอาจทำให้ตกเป็นผู้เสียหาย สูญเสียข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สินได้