สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดยสำนักงานกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) “จัดงานพิธีมอบทุนสนับสนุนผู้ประกอบการ TED Fund Grant Day 2025” ณ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี การจัดงานครั้งนี้ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก คุณวันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มาร่วมเป็นประธานพิธีเปิดงานและมอบทุนสนับสนุนผู้ประกอบการ และยังมีคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ , เครือข่ายร่วมพัฒนาผู้ประกอบการ TED Fellow เข้าร่วมงาน
น.สพ.ดร.สนัด วงศ์ทวีทอง ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยถึงความสำเร็จในการดำเนินงานของ “กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับทุนสนับสนุนฯ ครั้งนี้ ล้วนเป็นผู้ที่มีศักยภาพอย่างสูง ในการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ จนสามารถกลายเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ให้กับประเทศไทยได้ในอนาคต ส่งผลให้การ “จัดงานพิธีมอบทุนสนับสนุนผู้ประกอบการ TED Fund Grant Day 2025” กลายเป็นเวทีสำคัญในการเผยแพร่ผลดำเนินงานของกองทุนในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งด้านการส่งเสริมเงินทุน การบ่มเพาะศักยภาพ การต่อยอดธุรกิจ และการสนับสนุนระบบนิเวศของผู้ประกอบการเทคโนโลยีไทย
ในปี พ.ศ. 2568 นี้ TED Fund ยังคงเดินหน้าตามนโยบาย “กองทุนชั้นนำในการพัฒนาศักยภาพ และสนับสนุนผู้ประกอบการเทคโนโลยี นวัตกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน” ซึ่งได้สนับสนุนผู้ประกอบการ และStartup รวมจำนวน 282 ราย ผ่านเงินทุนสนับสนุนรวมกว่า 272 ล้านบาท ครอบคลุม 13 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ผ่าน 3 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการยุววิสาหกิจเริ่มต้น (TED Youth Startup) ที่มุ่งสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากนิสิตนักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ และผู้ประกอบการนิติบุคคล ภายใต้ความร่วมมือของเครือข่าย TED Fellow ทั่วประเทศ โดยมีนิสิตนักศึกษา และผู้ประกอบการได้รับทุน TED Youth Startup รวม 216 โครงการ คิดเป็นมูลค่าทุนสนับสนุน 154,538,167 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมการขยายตลาดและธุรกิจ (TED Market Scaling Up) ที่มุ่งผลักดันผู้ประกอบการนวัตกรรมที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการอยู่แล้ว ให้สามารถออกไปขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการได้รับทุน จำนวน 55 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินสนับสนุน 98,863,015 ล้านบาท
สุดท้าย คือ โครงการพัฒนาภาคเอกชนเพื่อยกระดับระบบนิเวศผู้ประกอบการ (Startups for Startups) ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญ และภาคเอกชน เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Startup ไทย โดยปี 2568 นี้ มีผู้ประกอบการได้รับทุนจำนวน 11 โครงการ คิดเป็นมูลค่าทุนสนับสนุน 19,273,000 ล้านบาท
“โดยตลอดระยะเวลา 9 ปี ในการดำเนินงาน TED Fund ก็ได้ทำหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นจำนวนกว่า 1,400 โครงการ มูลค่าทุนสนับสนุนกว่า 1,300 ล้านบาท และในปี 2568 สามารถสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม รวมมูลค่ากว่า 1,110 ล้านบาท ดังนั้นผู้ที่ได้รับทุนในปีนี้ ถือว่าเป็นกำลังสำคัญรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาพัฒนา ช่วยผลักดันประเทศไทย ให้กลายเป็นประเทศแห่งศูนย์กลางของเทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนต่อไป” น.สพ.ดร.สนัด กล่าวเพิ่มเติม
หลังจากความสำเร็จปีนี้ TED Fund ยังคงเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเงินทุนสนับสนุนในปี 2569 เป็น 300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่กว่า 300 ราย พร้อมเสริมแกร่งในด้านการพัฒนาศักยภาพ องค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ และการเชื่อมโยงกับภาคเอกชน นักลุงทุนต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
TED Fund ยังคงเดินหน้าสนับสนุนครอบคลุมทั้ง 13 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เช่น เทคโนโลยีดิจิทัล การแพทย์และสุขภาพ เกษตรสมัยใหม่ และในปี 2569 เรามีเป้าหมายในการสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมมุ่งเน้นเพิ่มเติม จำนวน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อชีวิตเมืองและชุมชน (Urban Living Innovation)เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตเมืองและชุมชน การแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานหรือบริการสาธารณะ ที่เชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ของผู้คนในทุกมิติ เช่น การจัดการของเสีย (Waste Management) การบริหารจัดการจราจร (Traffic Management) การดูแลคุณภาพอากาศ (Air Quality) การจัดการน้ำ (Water Management) รวมถึงการสร้างเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เมืองน่าอยู่ (Livable City) ความปลอดภัยสาธารณะ และบริการดิจิทัลสำหรับการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในชุมชนเมือง และกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative industries) ซึ่งอุตสาหกรรมนี้มีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) และการส่งออก Soft Power ของประเทศ อีกทั้งยังเป็นเวทีสำคัญในการเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่และผู้มีความสามารถเฉพาะด้านได้แสดงออก พัฒนาแนวคิดใหม่ และเติบโตเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว







