ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงความกังวลต่อทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วในช่วงต้นเดือนธันวาคม จึงเร่งเข้าดูแลสถานการณ์ โดยสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะการซื้อขาย เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มผู้ค้าทองคำ พร้อมกำชับให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจเอกสารในธุรกรรม FX ที่แลกซื้อเงินบาทอย่างละเอียด และเตรียมยกระดับการตรวจสอบการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 นายวิทัย รัตนากร ระบุว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 2.5% โดยมีปัจจัยหลักจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับปัจจัยเฉพาะของประเทศไทยในช่วงปลายปีที่ทำให้เงินทุนไหลเข้าสูงขึ้น ทั้งรายได้จากการท่องเที่ยว การส่งออก รวมถึงเงินทุนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ขณะเดียวกันยังพบว่ากลุ่มผู้ค้าทองคำมีธุรกรรมขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผู้ว่าการธนาคารกลางกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยเหตุนี้ ธปท.จึงจำเป็นต้องเข้าไปดูแลค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์คุมเข้มการตรวจสอบเอกสารในธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศเพื่อแลกซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมดังกล่าวมีความโปร่งใสและสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจตามปกติ
นอกจากนี้ ธปท.อยู่ระหว่างการขอให้ออกประกาศของ กระทรวงการคลัง เพื่อมอบอำนาจให้ ธปท.สามารถเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่ได้โดยตรง รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาท หลังพบว่าในบางช่วง ธุรกรรมของธุรกิจทองคำมีสัดส่วนสูงถึงประมาณ 20% ของมูลค่าการซื้อขายเงินตราต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน ธปท.ได้หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาให้มีหน่วยงานที่เหมาะสมเข้ามากำกับดูแลธุรกิจทองคำมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อขายทองคำออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่มีขนาดธุรกรรมขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ธปท.ยังเตรียมเข้าตรวจสอบธุรกรรมการขายเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อเงินบาทอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการนำเงินเข้าประเทศที่ไม่พึงประสงค์ หรือไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจตามปกติ รวมถึงการโอนเงินของบุคคลธรรมดา โดยจะให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินและค่าเงินบาทในระยะต่อไป