การเดินทางในทริปที่ 2. ของสื่อมวลชนประมาน 20 ท่าน รับไม้ต่อจากทริปที่ 1. ที่ใช้เส้นทาง จังหวัดพนมนคร ถึง จังหวัดสกลนคร ซึ่งทริปที่ 2.ของกระผมนี้รับรถแล้วขับต่อไปจังหวัดอุดรธานี โดยใช้เส้นทาง จังหวัดสกลนนคร ไปถึง จังหวัดอุดรธานี ระยะกว่า 190 กิโลเมตร โดยทางทีมพีอาร์ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้จัดเตรียมรถที่จะทำการทดสอบให้กับสื่อมวลชนทั้งหมดแบบครบทุกรุ่น จำนวน 14 คัน เริ่มจาก 1.MU-X 4x2 2.2 A/T จำนวน 3 คัน 2.V-Cross 3.0 M4-door A/T จำนวน 3 คัน 3.X-Series Hi-Lander 4-door 2.2 Ddi A/T จำนวน 2 คัน เกียร์ธรรมดา 6 สปีด จำนวน 1 คัน 4.Hi-Lander 2.2 Ddi M4-door A/T จำนวน 2 คัน และ 5.MU-X RS 4x4 3.0 A/T จำนวน 2 คัน ทุกๆคัน ใช้เครื่องยนต์และเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีเพียงไม่กี่คันที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ต้องใช้เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด การเลือกรุ่นรถของสื่อมวลชนที่จะใช้ในการทดสอบในครั้งนี้เป็นการจับฉลากโดยทางทีมพีอาร์อีซูซุจัดการให้เท่านั้น(แต่ถ้าสื่อมวลชนต้องที่สลับคันในช่วงการเดินทางก็สามารถทำการได้)
ในทริปที่ 2.การเดินทางเริ่มสตาร์ทจากสนามบินจังหวัดสกลนคร ออกเดินทางไปรับประทานอาหารเช้า ที่ร้านบ้านต้นตะขบ ระยะ 5.2 กิโลเมตร ต่อด้วยเดินทางต่อไปยังร้านกาแฟ เพื่อรับประทานกาแฟและฟังบรรยายสรุปเส้นทางและกิจกรรมของการเดินทางในครั้งนี้ที่ร้าน Rain Tree Café ระยะทาง 7.9 กิโลเมตร การฟังบรรยายสรุปเส้นทางและกิจกรรมที่น่าสนใจที่สุดของการเดินทางในทริปนี้ก็คือ การชาเลนซ์ซึ่งเป็นแข่งขันขับประหยัดน้ำมันของรถแต่ละคันแต่ละรุ่น (แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเองนะครับ) การเป็นท้าทายความสามารถของสื่อมวลชนอย่างผมที่คร่ำหวาดวงการวงการยานยนต์มาหลายสิบปี โจทย์ที่ทีมพีอาร์อีซูซุตั้งมาให้นั้นมันท้าทายอย่างมาก การทดสอบประหยัดของค่ายรถยนต์อื่นๆก็สามารถทำกันได้ แต่การตั้งโจทย์ของพีอาร์อีซูซุในครั้งนี้ เป็นตั้งโจทย์ใช้ระยะทางการพิสูจน์ความประหยัดเพียง 73.9 กิโลเมตร เดินทางจากวัดพระธาตุเชิงชุม ไปยังร้านอาหารกลางวัน (ร้านพันนาบุรี) ที่ว่าท้าทายสำหรับผม คือการขับประหยัดแต่เป็นการแข่งขันกับตัวเอง ที่มี Eco Sticker ของรถแต่ละรุ่นบริษัมฯเป็นผู้กำหนดเอาไว้ตามข้อกฏหมาย
ในครั้งนี้กระผมจับฉลากได้รุ่นรถเป็น MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น RS 2.2 Ddi MAXFORCE 4x2 เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร คันของผมนั่งกัน 3 สื่อมวลชน และ Eco Sticker ที่ติดไว้บนกระจกหลังเวลาลูกค้าไปซื้อรถจะเห็นว่ารถรุ่นนี้มีความประหยัดเท่าไรและอัตราสิ้นเปลื่องเท่าไร รุ่นรถที่ทีมผมทำการทดสอบ ( Eco Sticker อยู่ที่ 15.38 กิโลเมตรต่อลิตร) ก่อนออกจากวัดพระธาตุเชิงชุม มีทางทีมงานได้มาเซ็ตและตั้งค่าที่เรือนไมล์หรือที่หน้าปัดรถให้เป็นศูนย์ หลังจากนั้นก็เริ่มเดินทางทำการทดสอบทุกคัน ทุกๆคันมุ่งมั่นให้ความสำคัญและตั้งใจการท้าทายในครั้งนี้มาก (ขับประหยัดแบบใช้งานจริงๆบนถนนหลวงความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) โดยสรุปแล้ว ระยะทาง 73.9 กิโลเมตร ผมสามารถทำความประหยัดได้ (17.5 กิโลเมตร) ซึ่งเกินมาตรฐานที่ทาง บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ Eco Sticker ตั้งเอาไว้ (ในความเป็นจริงแล้วที่ผมทำการทดสอบความประหยัดเกือบทุกๆค่ายที่มีการแข่งขันขับประหยัดกัน มีเพียงรถ อีซูซุ เท่านั้นที่ทำเกินมาตรฐาน Eco Sticker ที่ตั้งเอาไว้ เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบความประหยัดอย่างยิ่ง)
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันทีมขบวน อีซูซุ ก็เดินทางกันต่อมุ่งหน้าสู่เมืองอุดรธานี โดยมีระยะทางเพียง เกือบ 100 กิโลเมตรเท่านนั้น ช่วงนี้แบบขับขี่กันแบบสบายๆไม่มีการแข่งขันอะไรมุ่งหน้าเข้าเมืองไปไหว้พระกันต่อก่อนเข้าโรงแรมที่พัก จบทริปนี้บอกได้เลยว่า เป็นทริปที่ท้าทายแบบไม่คาดคิด และเป็นทริปสายมูโดยเพราะ
MU-X “THE NEXT PEAK” รุ่น RS 2.2 Ddi MAXFORCE เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อม Rev Tronic และระบบ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย ระบบ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย ขับสนุกยิ่งกว่าเคย ด้วยอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล เพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่ด้วยช่วงล่างใหม่ โช้กอัพแบบ STIFF FLEX ลดการสั่นสะเทือน และการโคลงของรถขณะขับขี่ นุ่มนวล มั่นใจทุกครั้งที่เข้าโค้ง พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS และกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera เซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน เพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่ไปอีกขั้น ที่ให้ทุกการเดินทางอุ่นใจยิ่งกว่า ภายนอกโดดเด่น ให้อารมณ์สปอร์ต ผ่านเส้นสายที่มีความ DYNAMIC รอบคัน สง่างาม ด้วยกระจังหน้า BLACK DIAMOND GRILLE พร้อมสัญลักษณ์ RS โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้าย DYNAMIC BLADE และเส้นดีไซน์ EMBRACE LINE สะท้อนความสปอร์ต ล้ำยุค เสริมด้วยกันชนหน้าแบบ FIGHTER JET พร้อม AIR CURTAIN เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วย FENDER GARNISH สีดำ, SIDE GARNISH สัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอย RS DESIGN ขนาด 20 นิ้ว ภายในห้องโดยสารนั่งสบายรองรับสรีระตลอด การขับขี่ด้วยเบาะ COOLMAX ลดการสะสมความร้อน พร้อมตกแต่งสัญลักษณ์ RS สี LIME GREEN เพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว