วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงความสำเร็จครั้งสำคัญว่า กรมทางหลวง (ทล.) โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างและบูรณะผิวทางหลวงหมายเลข 41 สาย อ.ไชยา - อ.บ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ซึ่งนับว่า เร็วกว่ากำหนดตามสัญญาถึง 6 เดือนเต็ม ความสำเร็จนี้เป็นไปตามแผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของทางหลวงสายหลักของประเทศ
ทางหลวงหมายเลข 41 สายสี่แยกปฐมพร – พัทลุง ถือเป็น "เส้นเลือดใหญ่" ทางเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่ง โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งจากภาคกลางสู่ภาคใต้ตอนล่าง เป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าและพืชผลทางการเกษตร มีปริมาณจราจรสูง และมีรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวนมาก ทำให้มีความจำเป็นต้องบูรณะปรับปรุงอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจรของผู้ใช้เส้นทาง ลดปัญหาอุบัติเหตุ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยออกแบบเป็นผิวทางคอนกรีตชนิด Jointed Plain Concrete Pavement (JPCP) หนา 32 ซม. ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน และมีต้นทุนบำรุงรักษาต่ำ โครงการครอบคลุมช่วง อ.ไชยา - อ.บ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางรวมประมาณ 41.5 กิโลเมตร ด้วยวงเงินงบประมาณรวม 1,857,962,000 บาท โดยแบ่งการดำเนินการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา เพื่อให้การบริหารงานก่อสร้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแล้วเสร็จตามแผนโดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 41 สาย อ.ไชยา – อ.บ้านนาเดิม ตอน 3 ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจนโครงการแล้วเสร็จล่วงหน้า 6 เดือน ลดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน คณะกรรมการประเมินผลงานก่อสร้าง สำนักมาตรฐานและประเมินผล กรมทางหลวง จึงมอบ "รางวัลโครงการก่อสร้างดีเด่นประจำปี 2568" ให้แก่โครงการดังกล่าว ตอกย้ำมาตรฐานงานก่อสร้างที่โดดเด่นทั้งด้านการบริหารจัดการและการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการฯ ที่ยอดเยี่ยมนี้ เกิดจากการบริหารงานและวางแผนการทำงานร่วมกันระหว่าง สำนักก่อสร้างทางที่ 1 โดยมี นายวานิช สังข์ขาว นายช่างโครงการผู้ควบคุมงาน และแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 รวมถึงบริษัท พีระมิดคอนกรีต จำกัด ผู้รับจ้าง ซึ่งในโครงการนี้ได้ใช้เครื่องปูผิวคอนกรีต ชนิด Concrete Slip Form Paver ซึ่งทำให้ผลงานออกมามีคุณภาพสูงและแล้วเสร็จตามแผน นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสำคัญกับการ คำนึงถึง “ประชาชน” เป็นอันดับแรก โดยมีการวางแผนและสื่อสารกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบต่อการจราจรและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ให้กระทบน้อยที่สุด
ปัจจุบันโครงการนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ และเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โครงการฯ นี้ ได้ส่งมอบ ผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง โดยพี่น้องประชาชนจะได้รับความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทางจากผิวทางที่เรียบได้มาตรฐาน พร้อมอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยที่สมบูรณ์ ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เนื่องจากสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวของภูมิภาค
กรมทางหลวงจึงขอให้ความมั่นใจว่า ความสำเร็จอันเป็นแบบอย่างที่ดีของโครงการนี้ จะถูกใช้เป็นต้นแบบและแรงผลักดันสำคัญ เพื่อสร้างสรรค์โครงการอื่น ๆ ให้ได้มาตรฐานดีเด่นต่อไป ตามความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ก้าวหน้าและสมบูรณ์ที่สุด ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางการจราจร แจ้งเหตุ เรื่องร้องเรียน ได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)








