"สาวพังงา" เปิดข้อมูล เคยถูกคนตายที่ปอยเปต หลอกไปทำงานสแกมเมอร์ สีหนุวิลล์ กลับมาติดคุกหลายวันกว่าจะได้กลับบ้าน

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก นส.บี(นามสมมุติ) ชาวตำบลโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่าตัวเองเคยถูกสาวพังงาที่มีข่าวว่าเสียชีวิตจากแก๊งสแกมเมอร์ในปอยเปต หลอกให้ไปทำงานสแกมเมอร์ในประเทศกัมพูชามาแล้ว โดยเล่าว่า เมื่อประมาณต้นปี2567 ตนเองได้เห็นเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า “นา ริน.” ซึ่งเป้นของผู้ตาย ประกาศชักชวนคนไปทำงานออนไลน์รายได้ดี โดยมีการสร้างสตอรี่และโปรไฟล์กินหรูอยู่สบาย ซื้อรถเงินสด ใช้โทรศัพท์ไอโฟน ซึ่งเป็นช่วงที่ตนเองอยากได้เงินมาลงทุนเปิดร้านขายน้ำ จึงได้ติดต่อกับเขาไปทางข้อความ บอกว่าสนใจ และได้สอบถามลักษณะงานต่างๆ ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นงานขายออนไลน์ เป็นแอดมินอะไรประมาณนี้ ทำงานอยู่มี่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ตนเองก็บอกว่ากลัว เขาก็พยายามพูดหว่านล้มอยู่หลายวันบอกว่าเมื่อก่อนเขาก็เคยกลัว แต่เมื่อมาอยู่จริงก็ไม่น่ากลัวอยากจะกลับตอนไหนก็ได้ ได้เงินเดือน24,000บาทไม่รวมเปอร์เซ็นต์ จนในที่สุดได้ตัดสินใจไปกับเขา พร้อมกับแฟนเก่า และเพื่อนสาวอีก1คน โดยผู้ตายได้พาเพื่อนอีก1คนไปด้วยรวมเป็น 5คน ขึ้นรถโดยสารที่บขส.โคกกลอยไปลงที่สายใต้หรือหมอชิตไม่มั่นใจ จากนั้นมีรถมารับ2คัน ขับพาไปไหนตนก็มีรู้ ซึ่งมีการติดต่อประสานงานงานตลอดเส้นทาง

จากนั้นได้มีการเปลี่ยนรถเป็นกระบะ ขับพาไปในป่าและพบกับด่านที่มีหารกัมพูชาอยู่ ตอนแรกเขาไม่ให้ผ่าน ก็มีการโทรศัพท์ติดต่อกันจนเขาเปิดประตูให้เข้าไป ซึ่งใช้เวลานานพอสมควรจนมาโผล่ในฝั่งกัมพูชา และมีรถตุ๊กๆมารับ พร้อมปิดอำพรางด้วยผ้า จนมาถึงที่ทำงานที่สีหนุวิลล์ ที่มีระบบปิดกั้นกำแพง2ชั้น และให้พักและทำงานอยู่ในตึกที่มีคนไทยเป็นจำนวนมาก

โดยให้ทำงานเป็นระบบเป็นทีมคอลเซนเตอร์ ตอนนั้นตนโกรธผู้ตายมากที่หลอกมาทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ และมาทราบว่าหากสามารถพาคนอื่นมาทำงานด้วยจะได้ค่าหัวคนละ10,500บาท ระหว่างทำงานนั้นตนก็จะถูกสอนวิธีการหลอกต่างๆซึ่งส่วนใหญ่คนในนั้นที่เป็นคนไทยจะเป็นคนที่เต็มใจมาทำงานแบบนี้เมื่อหลอกผู้เสียหายีได้ก็จะดีใจฉลองกัน ซึ่งตนเองก็รับไม่ได้ในการที่จะต้องหลอกคนไทยด้วยกันจึงร้องให้ทุกวัน แต่ยังไม่เคยถูกทำร้ายร่างกาย

อยู่ที่นั่นจะมีหัวหน้าเป็นคนไทยมีบอสเป็นคนจีน เมื่อตนขอกลับบ้านเขาบอกว่าเอาเงินไถ่ตัว70,000 บาท จนในที่สุดอยู่ได้20กว่าวันตนได้แอบติดต่อกับแม่ให้ไปแจ้งความช่วยเหลือพร้อมส่งรูปหลักฐานต่างๆและโลเคชั่นไปให้ ทางตำรวจที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ให้ความช่วยเหลือ ประสานกับตม.ไทย ตม.กัมพูชา จากนั้นอยู่ๆทางตม.กัมพูชาได้เข้าไปรับตนเองพร้อมแฟนเก่าและเพื่อน3คนออกมาจากที่ทำงาน พามาขังที่ตม.กัมพูชาจากนั้นถูกขังต่อในคุกอีกเกือบ20วัน ก่อนจะปล่อยตัวมาส่งให้ทางการไทยที่ชายแดน ทั้งนี้ตนเองคิดว่าผู้ตายนั้นไม่ได้ถูกหลอกไปทำงานสแกมเมอร์ เพราะไปกลับมาแล้วหลายครั้ง จริงๆตอนที่ทราบข่าวว่าเขาตั้งท้องกลับมาพร้อมแฟนนั้น จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับเขา แต่คุณแม่ตนได้ห้ามไว้บอกว่าเขาจะได้รับผลกรรมเอง

#ภูมิภาค-75